Lasik ใบมีด และ FemtoLASIK ต่างกันอย่างไร

 Lasik ใบมีด และ FemtoLASIK ต่างกันอย่างไร

การรักษาค่าสายตาด้วยเทคนิคเลสิก (Lasik) ใบมีดจะแตกต่างจากเทคนิคเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) ตรงใช้ใบมีดในการแยกชั้นตา ความหนากระจกตา ระยะเวลาในการรักษา การพักฟื้นหลังทำ และราคาถูกกว่า

อย่างที่รู้กันดีอยู่แล้วว่าเลสิก (Lasik) เพื่อปรับค่าสายตาที่สั้น ยาว หรือเอียงมีอยู่ด้วยกันหลากหลายวิธี ซึ่งปัจจุบันหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมคือ Femtosecond Laser Lasik หรือเรียกสั้นๆ ว่า Femto Lasik เป็นการผ่าตัดโดยใช้แสงเลเซอร์แยกชั้นกระจกตาและปรับแต่งความโค้งกระจกตาให้มีความโค้ง ความลึก หรือความหนาได้ตามต้องการ แต่ทั้งนี้ยังมีการผ่าตัดปรับค่าสายตาอีกวิธีที่เรียกว่า Lasik ใบมีด เป็นวิธีการรักษาค่าสายตาแบบดั้งเดิม ส่วนทั้งสองวิธีจะแตกต่างกันในเรื่องไหนบ้างนั้น เรามีคำตอบมาฝากคนที่สนใจ

Lasik ใบมีดหรือ Blade Lasik คืออะไร

ก่อนไปดูว่าการรักษาด้วยเทคนิค Lasik ใบมีดและการรักษาด้วย  Femto Lasik ต่างกันอย่างไร มาทำความรู้จักกับการรักษาด้วยเทคนิค Lasik ใบมีดหรือ Blade Lasik ซึ่งเป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อปรับค่าสายตาให้กลับมาเป็นปกติที่มีการใช้มาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1989 ในขั้นตอนการรักษาจักษุแพทย์จะดำเนินการแยกชั้นกระจกตาด้วยการใช้ใบมีด ซึ่งจะทำให้ได้ฝากระจกตาที่ความหนาประมาณ 90 – 120 ไมครอน จากนั้นใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Lase) ปรับแต่งความโค้งที่กระจกตาเพื่อให้ค่าสายตากลับมาเป็นปกติ  แล้วจึงนำฝากระจกตาปิดกลับเข้าไปตามเดิม โดยที่ผู้ผ่าตัดไม่ต้องใส่คอนแทคเลนส์ (Contact Lens) ปิดทับ

ข้อดีของ Lasik ใบมีด

ถึงการรักษาด้วยเทคนิค Lasik ใบมีดหรือ Blade Lasik จะเป็นวิธีการ Lasik แบบดั้งเดิม แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเป็นตัวเลือกที่หลายคนสนใจ เนื่องด้วยมีข้อดีดังต่อไปนี้

  • ราคาถูกกว่าการรักษาด้วยเทคนิคเฟมโตเลสิก (Femto Lasik)และรีเล็กซ์ สไมล์ (ReLEx SMILE)
  • ใช้เวลาในการดำเนินการผ่าตัดสั้นประมาณ 15–20 นาที ทำให้เกิดการระคายเคืองในระหว่างการผ่าตัดน้อยกว่าเมื่อเทียบกับการรักษาด้วยเทคนิค PRK หรือ Photorefractive Keratectomy ซึ่งเป็นวิธีผ่าตัดรักษาค่าสายตาแบบดั้งเดิมเช่นเดียวกัน
  • เนื่องจากใช้ระยะเวลาในการผ่าตัดน้อย อีกทั้งในการผ่าตัดมีการเก็บส่วนของเนื้อเยื่อบุผิวเอาไว้จึงไม่ทำให้เกิดการระคายเคือง ใช้เวลาพักฟื้นไม่นานสามารถกลับมาใช้สายตาได้ตามปกติ และมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อย

ข้อจำกัดของ Lasik ใบมีด 

เช่นเดียวกับการ ทำ Lasik ด้วยเทคนิคอื่นๆ การรักษาด้วยเทคนิค Lasik ใบมีดเองมีข้อจำกัดเหมือนกัน โดยข้อจำกัดหลักๆ มีดังต่อไปนี้

  • การรักษาด้วยเทคนิค Lasik ใบมีด มักทำให้ความหนาของฝากระจกตาไม่สม่ำเสมอ จึงไม่เหมาะสำหรับคนที่มีภาวะกระจกตาบาง
  • เป็นเทคนิคที่ไม่เหมาะกับคนมีภาวะความโค้งกระจกตาผิดปกติ รวมถึงมีลักษณะดวงตาเล็กหรือบีบตาสู้เครื่องมือ เพราะอาจทำให้การเปิดฝากระจกตาไม่สมบูรณ์ ส่งผลกระทบต่อการรักษาได้
  • เป็นเทคนิคที่ไม่เหมาะกับคนมีภาวะตาแห้งเรื้อรัง เนื่องจากหลังทำการรักษามีโอกาสเกิดภาวะตาแห้งมากกว่าการทำเลสิก (Lasik)เทคนิคอื่น ซึ่งอาจทำให้อาการแย่ลง แต่สำหรับคนที่ไม่มีภาวะตาแห้งหากมีอาการตาแห้งสามารถใช้น้ำตาเทียมบรรเทาอาการได้
  • สามารถรักษาค่าสายตาสั้นได้ไม่เกิน -1,000 สายตายาวไม่เกิน +500 และสายตาเอียงไม่เกิน -600  หากเกินกว่าข้อจำกัดต้องเปลี่ยนไปใช้การทำเลสิก (Lasik)วิธีอื่น
  • หลังการรักษาด้วยเทคนิค Lasik ใบมีดจะส่งผลให้เนื้อเยื่อตามีความแข็งแรงลดลงจึงอาจส่งผลกระทบในอนาคตได้
  • หากดวงตาได้รับการกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงอาจเกิดปัญหาฝากระจกตาเคลื่อนได้ในอนาคต

LASIK ใบมีดเหมาะกับใคร

เรียกได้ว่าเป็นเทคนิคที่มีทั้งข้อดีและข้อเสีย สำหรับการรักษาด้วยเทคนิค Lasik ใบมีด แต่ปัจจุบันยังคงเป็นเทคนิคที่ได้รับความนิยม เนื่องจากรักษาได้ทั้งคนที่มีปัญหาสายตาสั้น สายตายาว และสายตาเอียง นอกจากนั้นยังตอบโจทย์ในเรื่องระยะเวลาพักฟื้น เนื่องด้วยผู้เข้ารับการรักษากลับมาเห็นภาพชัดไว ประมาณ 2–3 วัน สามารถกลับไปมองเห็นได้ตามปกติ แต่โดยปกติแล้วผู้ทำเลสิก (Lasik) ต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้

  • เป็นผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป แต่ไม่ควรเกิน 55 ปี
  • เป็นผู้ที่ได้รับการตรวจสอบแล้วพบว่าค่าสายตาคงที่อย่างน้อย 1 ปี หรือหากมีการเปลี่ยนแปลงต้องไม่ควรเกิน ±50  เพราะหากมีการเปลี่ยนแปลงมากกว่านั้นจะทำให้ค่าสายตาเกิดการเปลี่ยนแปลงได้หลังทำเลสิก
  • เป็นผู้ที่ได้รับการประเมินจากจักษุแพทย์ว่าดวงตาและกระจกตามีความแข็งแรง ไม่เป็นโรคตาหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับกระจกตา อย่างภาวะตาแห้งรุนแรง ตาแดง ภาวะขี้ตาเยอะ ต้อกระจก จอประสาทตาเสื่อม กระจกตาบาง หรือกระจกตาโค้งหรือแบนเกินกว่ากำหนด อีกทั้งต้องไม่เป็นโรคประจำตัวที่ส่งผลต่อการฟื้นฟูดวงตาหลังการทำ lasikเช่น โรคเบาหวาน โรค SLE หรือโรคอาการทางจิตเวชที่อยู่ในระหว่างการรักษา
  • เป็นผู้ที่ไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร

ความแตกต่างระหว่าง Lasik ใบมีดกับ FemtoLASIK​

คนที่สงสัยว่าการรักษาด้วยเทคนิค Lasik ใบมีดกับ Femto LASIK ต่างกันอย่างไร เพราะนอกจากจะจัดอยู่กลุ่มการทำเลสิก (Lasik) และรักษาสายตาสั้นยาวเอียงได้เหมือนกันแล้ว หากพิจารณาในขั้นตอนการรักษายังใช้แสงเลเซอร์ปรับความโค้งกระจกตาและมีขนาดแผลบนกระจกตาเท่ากันด้วย แต่ทั้งสองวิธีมีความแตกต่างกันหลายจุดดังนี้

ขั้นตอนการดำเนินการรักษา

การรักษาด้วยเทคนิคเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) ถือเป็นนวัตกรรมการเลสิก (Lasik) รูปแบบใหม่ที่ไม่มีการใช้มีด แต่จะใช้แสงเลเซอร์จากเครื่องเฟมโตเซเคิน เลเซอร์ (Femtosecond Laser) ที่มีความถี่สูงและให้พลังงานต่ำในการแยกชั้นกระจกตา ทำให้ได้ขอบกระจกตาที่มีความเรียบเนียนมากกว่า ขณะที่การรักษาด้วยเทคนิคเลสิกใบมีด จะใช้ใบมีดในการแยกชั้นตา ซึ่งอาจทำให้กระจกตาไม่สม่ำเสมอ

ความหนาของกระจกตา

การรักษาด้วยเทคนิคเลสิก (Lasik) ใบมีดจะได้ฝากระจกตาที่ความหนา130-150 ไมครอน ส่วนการรักษาด้วยเทคนิคเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) จะได้ความหนา 90-120 ไมครอน ซึ่งเป็นความหนาเหมาะกับคนที่มีภาวะกระจกตาบางและต้องการสงวนเนื้อกระจกตา 

เวลาในการผ่าตัด

ปกติแล้วการรักษาด้วยเทคนิคเลสิก (Lasik) ใบมีดจะใช้เวลาสั้นกว่าเทคนิคเฟมโตเลสิก (Femto Lasik)  โดยเทคนิคเลสิกใบมีดจะใช้เวลาประมาณ 15 – 20 นาที ส่วนเทคนิคเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) ใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 30 นาที

ระยะเวลาพักฟื้น

แม้ว่าทั้งสองเทคนิคจะใช้เวลาพักฟื้นไม่นานเหมือนกัน แต่หากเทียบระหว่าง 2 เทคนิคจะเห็นได้ว่าการรักษาด้วยเทคนิคเลสิก (Lasik) ใบมีดใช้เวลาพักฟื้นสั้นกว่าเล็กน้อย โดยใช้เวลา 2 – 3 วัน สามารถกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่การรักษาด้วยเทคนิคเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) อาจนานถึง 1 สัปดาห์

Lasik ใบมีดกับ Femto Lasik เลือกแบบไหนดีกว่ากัน

สำหรับคนที่ถามว่าระหว่าง Lasik ใบมีดกับ Femto Lasik ควรเลือกแบบไหนดี ควรเลือกจากราคาดีไหม ซึ่งแน่นอนว่าหากเลือกจากราคาคำตอบของคนส่วนใหญ่นั้นคงหนีไม่พ้นการรักษาด้วยเทคนิค Lasik ใบมีด แต่จริงๆ แล้วควรปรึกษาจักษุแพทย์เพื่อตรวจประเมินความเหมาะสม เพราะเลสิกใบมีดมีข้อจำกัดตรงไม่สามารถใช้รักษาในผู้ที่มีสายตาสั้น ยาว หรือเอียงมาก กระจกตาบาง กระจกตาโค้งหรือแบนมากกว่าปกติ สรีระตาเล็ก หากมีลักษณะนี้ควรเลือกใช้การรักษาด้วยเทคนิค เฟมโตเลสิก (Femto Lasik) แม้ว่าจะมีราคาแพงกว่า อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะเลือกรักษาด้วยวิธีใดแนะนำให้พิจารณาสถานพยาบาลด้วย โดยพิจารณาดังนี้

  • ควรเลือกสถานพยาบาลที่ได้รับมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงเรื่องภาวะแทรกซ้อน
  • ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีการดำเนินการโดยจักษุแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางในการรักษาค่าสายตา และทีมแพทย์มีประสบการณ์ดูแลผู้ป่วยที่รับการรักษาดวงตาเท่านั้น รวมทั้งมีเครื่องมือที่ทันสมัยเหมาะสมในการดูแลสุขภาพตา
  • ควรเลือกสถานพยาบาลที่เป็นศูนย์รักษาโรคตา เพราะในบางกรณีต้องมีการรักษาอย่างต่อเนื่อง เช่น ภาวะตาแห้งที่ต้องมีบรรเทาอาการด้วยยาบางชนิดการประเมินคุณภาพการมองเห็น จะช่วยทำให้สะดวกมากขึ้น
  • ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีบริการรักษาค่าสายตาหลายเทคนิค เพื่อเป็นตัวเลือกให้กับผู้เข้ารับการรักษามากขึ้น-ควรเลือกสถานพยาบาลที่มีค่าใช้จ่ายอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ไม่น้อยหรือสูงจนเกินไป

เป็นอย่างไรบ้างสำหรับข้อมูลดี ๆ เกี่ยวกับการความแตกต่างระหว่างเลสิก (Lasik) ใบมีดกับเฟมโตเลสิก (Femto Lasik)  ซึ่งจะเห็นว่าเลสิกทั้งสองวิธีนั้นแม้เป็นการแยกชั้นตาและปรับกระจกตาด้วยเลเซอร์เหมือนกัน แต่มีข้อแตกต่างกันทั้งการดำเนินการ ระยะเวลาการรักษา การพักฟื้น โอกาสเกิดผลข้างเคียง และราคา ดังนั้นก่อนตัดสินใจเลือกควรศึกษาข้อมูลและปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนเลือกเทคนิคที่เหมาะสมกับตัวเอง

 สาเหตุ อาการ และการรักษา กระจกตาเป็นแผลมองไม่ชัด
 วุ้นตาเสื่อมมีโอกาสตาบอดไหม
 กินหวานบ่อยๆ เสี่ยงเป็นภาวะเบาหวานขึ้นตาไหม
 ICL หรือ Implantable Collamer Lens ทางเลือกใหม่การรักษาสายตาผิดปกติ
 ต้อหินเฉียบพลันและต้อหินเรื้อรังต่างกันอย่างไร
 ภาวะสายตาเลือนราง VS ตาบอด ปล่อยไว้ไม่ได้
 มองเห็นหยากไย่ ลอยไปลอยมา รักษาอย่างไร อันตรายหรือไม่?
 เปรียบเทียบราคาการทำ LASIK แต่ละประเภท คุ้มไหมกับราคาที่ต้องจ่าย
 ถามตอบเรื่องที่คุณสงสัย กับการผ่าตัดใส่เลนส์เสริม (ICL)
 ใครเสี่ยงเป็นวุ้นในตาเสื่อมบ้าง พร้อมแนะนำแนวทางการป้องกันและรักษาให้ถูกวิธี

Copyright © 2024 All Rights Reserved.