ศูนย์โรคตาทั่วไป

อะไรคือกระจกตารูปกรวย (Keratoconus) สาเหตุคืออะไร มีวิธีการรักษาอย่างไร​

ศูนย์โรคตาทั่วไป อะไรคือกระจกตารูปกรวย (Keratoconus) สาเหตุคืออะไร มีวิธีการรักษาอย่างไร​

โรคกระจกตารูปกรวยทำให้กระจกตาของคุณบางลงและค่อย ๆ นูนออกมาเป็นรูปกรวย อาการดังกล่าวจะทำให้การมองเห็นผิดเพี้ยนและบิดเบี้ยว

โดยปกติกระจกตาของคนเราจะมีลักษณะใส รูปทรงโค้งเหมือนโดม แต่ในบางครั้งอาจพบภาวะผิดปกติของกระจกตาที่บางลง ส่งผลให้โครงสร้างไม่แข็งแรงพอที่จะรองรับแรงดันของลูกตา ทำให้นูนออกมาด้านหน้าเหมือนกรวย ภาวะที่กระจกตาผิดปกตินี้เรียกว่าภาวะกระจกตารูปกรวย หรือกระจกตาโก่ง (Keratoconus)

กระจกตารูปกรวยคืออะไร 

กระจกตารูปกรวย (Keratoconus) เป็นความผิดปกติของเส้นใยโปรตีนเล็ก ๆ ในดวงตาที่ช่วยยึดกระจกตาให้อยู่กับที่ เกิดอ่อนตัวลงและสูญเสียความแข็งแรงจนไม่สามารถคงรูปร่างไว้ได้ ส่งผลให้กระจกตานูนขึ้นมีลักษณะคล้ายกรวย ด้วยรูปร่างที่เหมือนกรวยนี้ทำให้แสงที่เข้าตาเกิดการหักเหทำให้การมองเห็นผิดเพี้ยน 

สาเหตุของการเกิดกระจกตารูปกรวย

มีด้วยกันหลายสาเหตุ ซึ่งประกอบไปด้วยปัจจัยต่อไปนี้

1.ปัจจัยทางพันธุกรรม2.ปัจจัยทางด้านสิ่งแวดล้อม3.ปัจจัยทางด้านกายภาพ ผลพวงมาจากการขยี้ตาที่รุนแรงหรือมีการขยี้ตาอยู่เป็นประจำ4.ปัจจัยจากการที่ผู้ป่วยเป็นดาวน์ซินโดรม ซึ่งมีอัตราการเป็นกระจกตารูปกรวยสูงกว่าปัจจัยอื่น ๆ5.ปัจจัยทางร่างกายของผู้ป่วยเอง ที่มีความผิดปกติในโครงสร้างคอลลาเจนของเนื้อเยื่อกระจกตา ทำให้กระจกตาอ่อนแอและบางลงได้

วิธีการตรวจเช็กอาการกระจกตารูปกรวย

โดยส่วนใหญ่ภาวะความผิดปกติของกระจกตาจะแสดงออกเมื่อผู้ป่วยอายุเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น ซึ่งการทดสอบเพื่อเช็กอาการของกระจกตารูปกรวย ได้แก่

  1. การวัดค่าสายตา
  2. การตรวจตาด้วยกล้องจุลทรรศน์
  3. การวัดความโค้งของกระจกตา
  4. การถ่ายภาพพื้นผิวกระจกตา

ลักษณะอาการของกระจกตารูปกรวย

  • ผู้ป่วยมีการมองเห็นที่ผิดเพี้ยน  
  • มีการมองเห็นภาพเบลอหรือผิดเพี้ยน-ค่าสายตาเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ โดยมากมักมีลักษณะสั้นหรือเอียงมากขึ้นเรื่อยๆ จนไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยแว่นสายตา

ในกระจกตารูปกรวยที่เป็นมาก กระจกตาอาจบางจนปริออก ส่งผลให้เกิดกระจกตาบวมน้ำเฉียบพลัน และแผลเป็นบนกระจกตาได้ หากไม่รีบรักษาจะทำให้มีปัญหาการมองเห็นในระยะยาว 

วิธีการรักษากระจกตารูปกรวย

การรักษากระจกตารูปกรวยขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงของอาการที่ผู้ป่วยกำลังเผชิญอยู่และอาการจะดำเนินไปเร็วแค่ไหน โดยทั่วไปมีวิธีในการรักษากระจกตารูปกรวยด้วยกัน 2 วิธี ได้แก่

1.การรักษาที่ไม่ใช่การผ่าตัด

เป็นการรักษาโดยมุ่งหมายเพื่อให้ค่าสายตากลับมาใกล้เคียงปกติมากที่สุด ได้แก่

  • EyeglassesOrSoftContactLenses แว่นตาหรือคอนแทคเลนส์ชนิดนุ่มสามารถแก้ไขการมองเห็นภาพเบลอหรือผิดเพี้ยนในช่วงเริ่มต้นของอาการกระจกตารูปกรวยได้ แต่ผู้ป่วยจะต้องเปลี่ยนค่าสายตาของแว่นตาหรือคอนแทคเลนส์อยู่บ่อยครั้งเนื่องจากรูปร่างของกระจกตาที่เปลี่ยนไป
  • HardContactLenses คอนแทคเลนส์ชนิดแข็งมักใช้เป็นขั้นตอนการรักษาถัดจากเลนส์อ่อนนุ่ม ซึ่งมีความก้าวหน้าในการรักษามากขึ้น ช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น เลนส์ประเภทนี้สามารถสวมใส่ให้พอดีกับกระจกตาได้
  • PiggybackLenses เป็นเลนส์ที่ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับกรณีใส่เลนส์แข็งแล้วรู้สึกไม่สบายตา โดยให้สวมคอนแทคเลนส์ชนิดแข็งทับบนเลนส์นุ่ม
  • HybridLenses เป็นคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษ โดยขอบของเลนส์จะนุ่ม ส่วนด้านในเลนส์จะแข็ง ใส่แล้วสบายตา มองเห็นได้ชัดขึ้น-ScleralLenses คอนแทคเลนส์ชนิดแข็งกึ่งนิ่ม ออกแบบมาให้มีขนาดเลนส์ใหญ่กว่าตาดำ เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาค่าสายตามาก แต่เลนส์มีราคาสูง

2.การรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด

ขึ้นอยู่กับอาการและระดับความรุนแรงที่กำลังเผชิญอยู่ ได้แก่

  • Corneal Collagen Cross-Linking เป็นการฉายแสงยูวีที่กระจกตา เพื่อช่วยชะลอการดำเนินโรคไม่ให้เป็นมากขึ้น
  • IntrastromalCornealRingSegments (ICRS) เหมาะสำหรับการรักษาอาการกระจกตารูปกรวยในระดับเล็กน้อยถึงปานกลาง โดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะทำการผ่าตัดใส่วงแหวนขนาดเล็กเข้าไปในกระจกตาเพื่อช่วยให้กระจกตาแบนลงส่งผลให้การมองเห็นดีขึ้นและใส่คอนแทคเลนส์ได้พอดี
  • CornealTransplant การผ่าตัดปลูกถ่ายกระจกตา หากมีรอยแผลที่กระจกตาหรือกระจกบางมาก ซึ่งการปลูกถ่ายกระจกตาจะทำก็ต่อเมื่อไม่สามารถรักษาด้วยวิธีอื่นได้แล้ว

การดูแลตนเองหลังเข้ารับการรักษา

  • เข้ารับการตรวจตามนัดผู้ป่วยจำเป็นที่จะต้องเข้ารับการตรวจกับแพทย์ที่ทำการรักษาตามนัดเพื่อติดตามอาการและประสิทธิภาพของการรักษา
  • เพื่อสุขอนามัยที่ดี ในการใช้คอนแทคเลนส์ ควรล้างทำความสะอาดมือทุกครั้งทั้งก่อนใส่และหลังใส่ เพื่อป้องกันการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อน รวมถึงการทำความสะอาดคอนแทคเลนส์อยู่เป็นประจำ
  • ควรสวมแว่นตานิรภัยเพื่อหลีกเลี่ยงการบาดเจ็บที่จะทำให้สภาพตาแย่ลง
  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตา โดยเฉพาะหากมีอาการแพ้หรือระคายเคือง
  • ปฏิบัติตามคำสั่งแพทย์อย่างเคร่งครัด

การป้องกันการเกิดกระจกตารูปกรวย

  • สำหรับผู้ที่มีประวัติครอบครัวเป็นโรคกระจกตารูปกรวย การขอคำปรึกษาจากแพทย์เกี่ยวกับพันธุกรรมจะช่วยให้ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับความเสี่ยงของการเป็นโรคได้
  • หลีกเลี่ยงการขยี้ตาแรง ๆ
  • ป้องกันดวงตาจากแสงแดด แสงฟ้าจากคอมพิวเตอร์ ด้วยแว่นกันแดดและฟิล์มกรองแสง หรือลดการใช้งานหน้าจอคอมพิวเตอร์และมือถือต่อเนื่องเป็นระยะเวลานาน ๆ
  • รับประทานอาหารที่ช่วยบำรุงสายตา
  • เข้ารับการตรวจสายตาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหาความผิดปกติของสายตา

โรคกระจกตารูปกรวยเป็นความผิดปกติของกระจกตาที่ทำให้มีลักษณะกระจกตารูปกรวย ส่งผลให้การมองเห็นผิดเพี้ยน การตรวจพบแต่เนิ่น ๆ ผ่านการตรวจตาเป็นประจำและการรักษาที่เหมาะสม เช่น การใช้คอนแทคเลนส์ หรือการผ่าตัด สามารถช่วยในการรักษาได้ สำหรับผู้ที่มีปัญหากระจกตานูนเป็นรูปกรวยและต้องการรักษากับจักษุแพทย์ที่มีประสบการณ์ในการรักษา

 โรคกระจกตาโก่ง (Keratoconus)

Copyright © 2024 All Rights Reserved.