ใครบ้างเสี่ยงเป็นต้อลม เป็นแล้วหายได้หรือไม่

 ใครบ้างเสี่ยงเป็นต้อลม เป็นแล้วหายได้หรือไม่

ทำความรู้จักอาการของต้อลม วิธีการรักษา พร้อมวิธีดูแลตัวเองเพื่อให้ห่างไกลจากโรค

ต้อลม เป็นโรคที่พบได้บ่อยในผู้ใหญ่ทุกเพศทุกวัย ถึงแม้ไม่อันตรายแต่ก็มีผลต่อความสวยงามของดวงตา หรือบางรายอาจรบกวนการดำเนินชีวิตได้ เช่น มีอาการระคายเคืองตา มองไปทางไหนก็รู้สึกเหมือนมีเม็ดทรายในตา ตาแดง น้ำตาไหลได้ ในบทความนี้เรามาทำความรู้จักกับต้อลมในหลายมุมทั้ง ปัจจัยเสี่ยง อาการที่พบ และการรักษา เพื่อป้องกันและดูแลตัวเองจากต้อลมเบื้องต้นได้อย่างเหมาะสม 

ปัจจัยเสี่ยงต่อต้อลมเกิดจากอะไร

ต้อลมเกิดได้จากหลายสาเหตุประกอบกัน ปัจจัยเสี่ยงหลักๆคือการเผชิญแสงแดดต่อเนื่องเป็นเวลานาน ในแสงแดดมีรังสีอัลตราไวโอเลต รังสีดังกล่าวทำให้เยื่อบุตาค่อย ๆ เสื่อมสภาพ และหนาตัวขึ้นจนเกิดเป็นต้อลมในที่สุด

นอกจากรังสีอัลตราไวโอเลตในแสงแดดแล้ว ต้อลมยังเกิดจากสาเหตุ อื่นๆได้อีก ไม่ว่าจะเป็นกรรมพันธุ์ อายุที่มากขึ้น การการระคายเคืองตาเรื้อรังทั้งจากมลภาวะ ฝุ่น ควัน และลมร้อน รวมทั้งสิ่งเหล่านี้เองอาจกระตุ้นให้ต้อเนื้อเกิดการอักเสบขึ้นมาได้ การใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ โดยเฉพาะคอนแทคเลนส์ชนิดแข็งก็มีผลให้ต้อลมแย่ลงได่เช่นกัน

ต้อลม มีอาการอย่างไรบ้าง

ก่อนทราบว่าอาการของต้อลมเป็นอย่างไร ลองมาทำความรู้จักโรคต้อลมกันสักนิด ต้อลมคือโรคทางตาชนิดหนึ่งซึ่งมักไม่มีอาการ สามารถสังเกตเห็นได้ด้วยตาเปล่า ต้อลมจะมีลักษณะเป็นก้อนขนาดเล็กสีเหลืองอ่อนบริเวณตาขาวส่วนที่ชิดกับกระจกตาของเรา โดยมักจะเป็นทั้งสองตา ส่วนใหญ่ต้อลมมักเกิดบริเวณหัวตา แต่ก็สามารถพบบริเวณหางตาได้ ต้อลมต่างกับต้อเนื้อตรงที่ต้อเนื้อมีขนาดใหญ่กว่าและกินบริเวณไปยังส่วนของตาดำได้ด้วย จึงสามารถเรียกได้ว่าต้อลมกับต้อเนื้อเป็นโรคชนิดเดียวกัน แต่ต้อเนื้อคือระยะลุกลามที่ขยายขนาดขึ้นไปบริเวณตาดำ จนอาจกดให้กระจกตาโค้งผิดรูปจนส่งผลต่อการมองเห็นได้

สำหรับอาการของต้อลมในระยะเริ่มแรกมักไม่มีอาการ สามารถมองเห็นได้ตามปกติ บางรายหากต้อเนื้อเกิดการอักเสบจะมีอาการรุนแรงขึ้นได้ อาจรู้สึกแสบตา ระคายเคืองตา คันตา ตาแดง น้ำตาไหล โดยอาการอักเสบมักเกิดจากการตากแดดนาน ๆ หรือเผชิญฝุ่น ควัน มลภาวะต่อเนื่องเป็นเวลานาน พบได้บ่อยในประเทศไทยซึ่งมีอากาศร้อนและแสงแดดแรง

ต้อลมอันตรายไหม 

เมื่อเกิดอาการต้อลม หลายคนอาจรู้สึกกังวลว่าเป็นอันตรายหรือไม่ แท้จริงแล้วต้อลมไม่ใช่โรคอันตรายที่ต้องกังวลจนเกินไปนัก เพราะเป็นโรคที่รักษาได้ โดยการรักษาขึ้นอยู่กับระยะของโรคและอาการว่าเป็นมากหรือน้อยเพียงใด อีกทั้งการเป็นต้อลมจะไม่เป็นอันตรายถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น ตรงกันข้ามกับต้อหินซึ่งเป็นโรคต้อที่อันตรายมาก เนื่องจากหากไม่ได้รับการรักษาจนถึงขั้นลุกลาม จะเสี่ยงต่อการสูญเสียการมองเห็นถาวร  

เป็น ต้อลม มีโอกาสหายไหม รักษาด้วยวิธีใด

แม้ต้อลมจะไม่ใช่โรคร้ายแรง แต่หากส่งผลกระทบต่อการดำเนินชีวิตก็ควรรักษาเพื่อบอกลาโรคดังกล่าว โดยวิธีการรักษาเบื้องต้นแพทย์จะตรวจดูอาการภายนอกหรือใช้เครื่องมือทางจักษุแพทย์ เพื่อดูว่ามีอาการมากหรือน้อยเพียงใด การซักประวัติเพื่อหาสาเหตุที่มาของโรค เช่น รูปแบบการดำเนินชีวิต อาชีพ ฯลฯ รวมถึงประวัติของบุคคลในครอบครัว เนื่องจากคนไข้บางรายเป็นต้อลมเพราะพันธุกรรม โดยการรักษาสามารถแบ่งได้เป็น 2 วิธีการ ดังนี้

1.การหยอดตา

กรณีที่อาการของต้อลมไม่รุนแรงมากนักแพทย์จะแนะนำให้หยอดตาเป็นประจำ แม้จะไม่ใช่วิธีการกำจัดต้อลมให้หายขาด แต่เป็นการช่วยลดอาการทางตาและลดโอกาสที่ต้อลมจะขยายขนาดขึ้นจนกลายเป็นต้อเนื้อ หรือลดโอกาสเกิด๖้อลมอักเสบได้ ควรหยอดตาไปพร้อม ๆ กับการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินชีวิต เช่น หลีกเลี่ยงแสงแดดจัด สวมใส่แว่นตากันแดดเป็นประจำ

2.การผ่าตัด

อีกหนึ่งวิธีการรักษาต้อลมที่มีอาการรุนแรงมากขึ้น คือการผ่าตัดปลูกเนื้อเยื่อไปยังบริเวณเยื่อบุตาขาวที่ถูกกำจัดต้อลมออกไปแล้ว จากนั้นเย็บปิดด้วยไหมหรือตัวช่วยสมานแผล วิธีนี้จะช่วยลดการเกิดต้อลมซ้ำ แต่หลังจากผ่าตัดอาจมีอาการระคายเคืองและต้องปฏิบัติตนตามแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด

ต้อลมกลับมาเป็นซ้ำได้ไหม

ต้อลมสามารถรักษาเบื้องต้นได้ด้วยการหยอดตาและปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตเพื่อลดความเสี่ยงการเกิดโรคหรือชะลอการดำเนินของโรค แต่ถึงอย่างนั้นเชื่อว่าหลายคนมักมีคำถามว่าจะมีโอกาสกลับมาเป็นต้อลมได้อีกหรือไม่ ซึ่งต้องตอบตามตรงว่ามีโอกาสกลับมาเป็นต้อลมได้อีก เนื่องจากสาเหตุการเกิดต้อลมส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมคุ้นชิน ไม่ว่าจะเป็นการอยู่ท่ามกลางแดดจัด การใช้ชีวิตในเมืองที่เต็มไปด้วยฝุ่น ควัน และมลภาวะ รวมถึงการต้องจ้องจอคอมพิวเตอร์วันละหลายชั่วโมงโดยไม่มีการพักสายตา สิ่งเหล่านี้คือตัวการทำให้เกิดต้อลมซ้ำได้อีก แม้จะได้รับการรักษาแล้ว การปรับเปลี่ยนพฤติกรรมจึงมีความสำคัญเพื่อลดโอกาสการเกิดต้อลมซ้ำให้น้อยที่สุด 

วิธีลดความเสี่ยง ป้องกันการเกิดต้อลม

แม้ต้อลมจะไม่ใช่โรคต้อที่อันตรายจนทำให้สูญเสียการมองเห็น แต่ถึงอย่างนั้นควรลดความเสี่ยงด้วยการป้องกันตนเองให้ห่างไกลจากโรคดังกล่าว โดยการป้องกันการเกิดต้อลมสามารถทำได้ดังนี้

-หลีกเลี่ยงการเผชิญรังสีอัลตราไวโอเลต วิธีง่าย ๆ คือไม่ควรอยู่ท่ามกลางแดดจัดนาน ๆ เพราะมีโอกาสทำให้ดวงตาต้องเจอกับแสงแดดจ้า ซึ่งแสงแดดคือตัวการสำคัญในการทำให้เกิดต้อลมเลยทีเดียว-หากมีเหตุให้ต้องอยู่ท่ามกลางแดดจัด แนะนำให้ใส่แว่นกันแดด ใส่หมวก หรือกางร่มจะช่วยกรองรังสีอัลตราไวโอเลตได้ อีกทั้งยังช่วยป้องกันสิ่งแปลกปลอมเข้าสู่ดวงตาอีกด้วย-หลีดเลี่ยงสถานที่ที่เต็มไปด้วยมลภาวะ ฝุ่น ควัน ละอองฝอยต่าง ๆ ซึ่งจะกระตุ้นให้ต้อลมเกิดการอักเสบหรือมีอาการรุนแรงขึ้นได้-ไม่ควรขยี้ตาบ่อย ๆ เพราะเสี่ยงต่อการทำให้ตาอักเสบ ระคายเคือง รวมถึงยังมีโอกาสทำให้ดวงตาติดเชื้อ-หากมีอาการเริ่มต้นของต้อลม เช่น สังเกตว่ามีจุดสีเหลืองอ่อนบนตาขาว แม้จะยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ ควรสังเกตการเปลี่ยนแปลงขนาด สี รูปทรงของต้อลมเป็นระยะ หากพบว่ามีอาการผิดปกติหรือเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ควรรีบพบจักษุแพทย์-แม้ได้รับการรักษาต้อลมแล้ว แต่ถึงอย่างนั้นคนจำนวนไม่น้อยกลับมาเป็นโรคดังกล่าวได้อีก วิธีลดความเสี่ยงเกิดโรคซ้ำ แนะนำให้สวมใส่แว่นกันแดดทุกครั้งที่ต้องเผชิญแดดจัดหรือฝุ่นควัน ที่สำคัญคือแว่นกันแดดชนิดที่กรองรังสียูวีได้ เพื่อไม่ให้แสงแดดกระทบดวงตาโดยตรง

ต้อลมเป็นโรคที่มักไม่แสดงอาการ เพราะฉะนั้นควรตรวจตาอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ ผู้ที่สายตาต้องเผชิญแสงแดด ฝุ่น ควัน หรือต้องจ้องจอคอมพิวเตอร์เป็นเวลานาน เพื่อสุขภาพตาที่ดีและลดการเกิดปัญหาระยะยาวต่อดวงตา

 รักษาสายตาสั้น ยาว เอียง ด้วย PRK คืออะไร?
 ต้อลม (pinguecula) รักษายังไงให้หายขาด
 ทำความรู้จัก “ต้อลมในผู้สูงวัย” เป็นแล้วรักษาให้หายได้หรือไม่
 เช็กด่วน! อาการแบบไหนบ่งบอกว่าคุณได้เวลาตัดแว่น
 ตรวจวัดสายตากับนักทัศนมาตรดีจริงไหม
 “น้ำตาเทียม” มีประโยชน์จริงไหม เลือกอย่างไร? รู้ก่อนใช้เพื่อความปลอดภัย
 หลังผ่าตัดต้อเนื้อจะเจ็บมากมั้ย พักฟื้นกี่วัน
 เปรียบเทียบราคาการทำ LASIK แต่ละประเภท คุ้มไหมกับราคาที่ต้องจ่าย
 นักทัศนมาตร (Optometrist) คือใคร ทำไมต้องตัดแว่นกับนักทัศนมาตร
 ไขข้อสงสัย อาการตาเข ตาเหล่ (Strabismus)ในเด็กเกิดจากพันธุกรรมจริงหรือ

Copyright © 2024 All Rights Reserved.