ศูนย์เลสิก
ทำความรู้จัก Femto Lasik
การผ่าตัดแก้ไขสายตาโดยการเปิดฝากระจกตาด้วยเลเซอร์
Femto Lasik เป็นนวัตกรรมการผ่าตัดเลสิกด้วยแสงเลเซอร์ความถี่สูงเพื่อแยกชั้นและปรับความโค้งด้านในกระจกตา จุดเด่นคือแผลหายเร็ว ไม่ต้องพักฟื้นนาน และโอกาสเกิดผลข้างเคียงน้อย
การ ทำ เลสิก (Lasik) หรือ Laser-Assisted In Situ Keratomileusis เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนมีปัญหาค่าสายตา ทั้งสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง เพื่อให้กลับมามีค่าสายตาปกติและไม่ต้องใส่แว่นสายตาให้หงุดหงิดอีกต่อไป สำหรับการรักษาค่าสายตาผิดปกติด้วยเลสิก (Lasik)
นั้นวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันคือเฟมโตเลสิก(Femto Lasik) เป็นเลสิกรูปแบบใหม่ที่สามารถแก้ปัญหาสายตาได้หลายกรณี แต่ Femto Lasik คืออะไร มีจุดเด่น ขั้นตอน และเฟมโตเลสิก(Femto Lasik) ราคา เท่าไหร่นั้นสามารถหาข้อมูลได้จากบทความนี้
ทำความรู้จัก Femto Lasik คืออะไร
เฟมโตเลสิก หรือ Femto Lasik คือ นวัตกรรมการผ่าตัดเลสิก (Lasik) รูปแบบใหม่โดยการปล่อยแสงเลเซอร์ความถี่สูงที่ความยาวคลื่น 1053 นาโนเมตร จากเครื่องเฟมโตเซเคินเลเซอร์ (Femtosecond Laser) ประมาณ 10–15 วินาที เพื่อแยกชั้นตาและปรับแต่งความโค้งกระจกตา โดยไม่มีการใช้ใบมีดในทุกขั้นตอน ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เฟมโตเลสิก (Femto Lasik) ถูกเรียกว่า “เลสิกไร้ใบมีด” สำหรับการผ่าตัด เฟมโตเลสิก(Femto Lasik) ราคา จะแตกต่างกันขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นของสถานพยาบาล โดยทั่วไปเริ่มต้นที่หลักหมื่นไปถึงหลักแสนบาท
จุดเด่นของ Femto Lasik
เนื่องจากเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) เป็นการเลสิกนวัตกรรมใหม่ที่ไม่มีการลงมีดจึงไม่จำเป็นต้องวางยาสลบ อีกทั้งเลเซอร์ที่ใช้ยังมีพลังงานต่ำจึงทำให้เฟมโตเลสิก (FemtoLasik) มีจุดเด่นดังนี้
- สามารถแยกชั้นฝากระจกตาได้บางกว่าวิธีการผ่าตัดแบบเดิมโดยได้กระจกตาที่มีความบางประมาณ90–120ไมคอนรวมทั้งยังช่วยให้กระจกตาเรียบกำหนดความลึกและความหนาของกระจกตาได้ตามที่ต้องการ
- เลเซอร์ที่ใช้มีพลังงานต่ำและมีความแม่นยำสูงจึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายกับเนื้อเยื่อข้างเคียงทำให้แผลสมานตัวได้เร็วลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังการทำเลสิก(Lasik)เช่นการติดเชื้อหลังผ่าตัดภาวะฝากระจกตาหลุดออกทั้งหมดหรือภาวะฝากระจกตาทะลุปัญหาฝากระจกไม่เรียบหรือรอยถลอกที่กระจกตา
- ใช้เวลาพักฟื้นน้อยทำให้กลับมาใช้สายตาตามปกติได้เร็วมากขึ้น
- ใช้เวลาดำเนินการน้อยช่วยลดความเป็นกังวลและความเจ็บปวดของคนไข้ได้มากขึ้น
คุณสมบัติของผู้ที่สามารถทำ Femto LASIK
แม้ว่าเฟมโตเลสิกจะสามารถใช้รักษาผู้ที่มีค่าสายตาผิดปกติหลากหลาย ทั้งผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น ยาว หรือเอียงตามอายุ ผู้ที่มีปัญหาค่าสายตาตั้งแต่กำเนิด และผู้ที่มีดวงตาเล็กแต่ถึงอย่างนั้นมีข้อจำกัดในบางกลุ่ม ดังนั้นผู้ที่สามารถทำเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) ควรมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
- มีอายุตั้งแต่20ปีขึ้นไปและค่าสายตาไม่เปลี่ยนแปลงขึ้นหรือลงอย่างน้อย1ปี
- ผู้ที่ค่าสายตาสั้นไม่เกิน1,000 - 1,200ค่าสายตายาวหรือเอียงไม่เกิน600
- ต้องมีกระจกตาสมบูรณ์แข็งแรงไม่เป็นโรคที่เกี่ยวข้องกับกระจกตาหรือโรคที่เกี่ยวข้องกับการมองเห็นเช่นภาวะตาแห้งรุนแรงโรคต้อกระจกโรคต้อหินโรคกระจกตาย้วยเป็นต้น
- ผู้ที่ไม่มีโรคประจำตัวที่ส่งผลกับแผลผ่าตัดเช่นโรคภูมิแพ้ตัวเองโรคSLE (Systemic Lupus Erythematosus)โรคภูมิคุ้มกันบกพร่องโรคสะเก็ดเงินโรคเบาหวานที่ไม่สามารถควบคุมน้ำตาลได้โรคหลอดเลือดที่ยังไม่สามารถควบคุมโรคได้ผู้ที่ติดเชื้อHIV
- สำหรับคนไข้ที่เป็นผู้หญิงต้องไม่อยู่ในระหว่างตั้งครรภ์ให้นมบุตรหรือวางแผนตั้งครรภ์ในช่วง6เดือนหลังการทำเลสิก
ขั้นตอนการทำ Femto Lasik
ในการทำเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) จะใช้เวลาประมาณ30 นาที แต่ก่อนทำต้องมีการแจ้งประวัติสุขภาพและเตรียมความพร้อมด้วยการตรวจประเมินสุขภาพตา เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการวางแผนผ่าตัด ไม่ว่าจะเป็นการตรวจค่าสายตาจากคอมพิวเตอร์ การประเมินระยะการมองเห็น การตรวจประเมินความดันลูกตา การตรวจวัดค่าสายตาโดยจักษุแพทย์การตรวจภาวะตาแห้ง การถ่ายภาพกระจกตา การหยอดยาขยายม่านตา การตรวจสภาพจอประสาทตา นอกจากนั้นก่อนเข้ารับการวิเคราะห์ตาควรงดใส่คอนแทคเลนส์ตั้งแต่ก่อนตรวจวิเคราะห์ตาตามระยะเวลาที่แพทย์สั่ง งดรับประทานยารักษาสิวกลุ่ม Isotretinoin เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และสวมแว่นตาเนื่องจากต้องมีการหยอดยาขยายม่านตา ซึ่งหากเข้ารับการตรวจแล้วสภาพตาและกระจกตาแข็งแรง จักษุแพทย์จะดำเนินการทำเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) ตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
- จักษุแพทย์คลุมใบหน้าด้วยวัสดุปลอดเชื้อโดยเปิดไว้เฉพาะดวงตาจากนั้นหยอดยาชาให้กับผู้รับการผ่าตัดและรอเวลาให้ยาชาออกฤทธิ์
- หลังจากยาชาออกฤทธิ์แล้วจักษุแพทย์ใส่เครื่องถ่างตาและใช้เครื่องเฟมโตเซเคินเลเซอร์(Femtosecond Laser)ผ่าตัดแยกชั้นกระจกตาตามที่ได้วางแผนไว้ก่อนการรักษาโดยในขั้นตอนนี้ผู้รับการผ่าตัดต้องพยายามถ่างตาให้กว้างและมองเข้าไปในช่องแสงของกล้องผ่าตัด
- เปิดฝากระจกตาและใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์(Excimer Laser)ในการปรับแต่งความโค้งด้านในกระจกตาเพื่อรักษาค่าสายตาให้กลับมาเป็นปกติ
- เมื่อปรับแต่งความโค้งกระจกตาให้ได้ระดับตามที่ต้องการแล้วจักษุแพทย์จะใส่ฝากระจกตากลับในตำแหน่งเดิมและปิดฝาครอบตารอประมาณ2 – 3นาทีจึงนำเครื่องถ่างตาออก
- หลังผ่าตัดแพทย์จะให้ผู้รับการผ่าตัดใส่ที่ครอบตาเป็นเวลา1คืนและตรวจติดตามผลของการทำเฟมโตเลสิก(FemtoLasik)ในระยะ1ปีซึ่งผู้รับการผ่าตัดควรไปพบจักษุแพทย์ทุกครั้งเพื่อประเมินอาการ
การดูแลตัวเองหลังทำ Femto LASIK
สำหรับการดูแลตามคำแนะนำของจักษุแพทย์นอกจากจะช่วยให้แผลผ่าตัดหายเร็วขึ้นแล้ว ยังลดความเสี่ยงเรื่องภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัด ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องปฏิบัติตามคำแนะนำดังต่อไปนี้
- ควรหยอดยาปฏิชีวนะน้ำตาเทียมและรับประทานยาที่จักษุแพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
- ควรใส่ฝาครอบตาในระหว่างนอนเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ผ่าตัดจับหรือขยี้ตา
- ช่วงสัปดาห์แรกหลังการทำเฟมโตเลสิก(FemtoLasik)ให้งดล้างหน้าสระผมรวมถึงงดทำกิจกรรมที่เสี่ยงให้แผลผ่าตัดโดนน้ำเหงื่อฝุ่นควันหรือสิ่งสกปรกเข้าตาและบาดแผล
- สำหรับผู้ผ่าตัดที่เป็นผู้หญิงควรมัดผมเพื่อป้องกันผมสัมผัสกับแผลและงดการแต่งหน้ารอบดวงตาซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดการติดเชื้อได้
- ระหว่างที่แผลผ่าตัดยังไม่หายสนิทควรงดขับรถในเวลากลางคืนเนื่องจากคุณภาพการมองเห็นไม่ปกติ
- ช่วง1เดือนหลังการผ่าตัดควรใส่แว่นตากันแดดในช่วงเวลากลางวันทั้งนี้เพื่อปกป้องดวงตาจากแสงแดดฝุ่นละอองและลม
- ช่วง1เดือนควรงดกิจกรรมว่ายน้ำส่วนการดำน้ำลึกทำได้หลังการผ่าตัด3เดือน
- หมั่นสังเกตอาการผิดปกติของตัวเองหากมีอาการปวดบวมติดเชื้อหรือการมองเห็นแย่ลงควรรีบไปพบจักษุแพทย์ในทันที
ผลข้างเคียงที่ต้องระวัง
ปกติแล้วหลังการทำเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) จะมีอาการคันตา เคืองตา แสบตา ปวดบริเวณตา หรือมีน้ำตาไหลเป็นจำนวนมาก ซึ่งเป็นอาการข้างเคียงที่สามารถเกิดขึ้นได้หลังการผ่าตัด แต่มีหลายอาการที่ควรเฝ้าระวัง ได้แก่
- อาการตาไม่สู้แสงการผ่าตัดย่อมส่งผลกระทบกระเทือนต่อเนื้อเยื่อตาเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดภาวะแพ้แสงหรือตาไม่สามารถสู้แสงได้ทั้งจากแสงธรรมชาติและแสงไฟซึ่งเมื่อเจอแสงจะมีอาการแสบตาน้ำตาไหลปวดกระบอกตาลืมตาไม่ได้หรือปวดหัวแต่นอกจากสาเหตุนี้แล้วอาการตาไม่สู้แสงยังอาจเกิดจากการติดเชื้อโรคตาการใช้ยาบางชนิดโรคที่เกี่ยวข้องกับระบบเลือดหรือโรคจิตเวชได้เช่นกัน
- มองเห็นไม่ชัดเป็นผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นได้จากบาดแผลผ่าตัดยังไม่สมานตัวดีหรือระดับสายตาที่ปรับใหม่ยังไม่เข้าที่ทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจนหลังผ่าตัดอย่างไรก็ตามอาการมองเห็นไม่ชัดจะค่อยๆดีขึ้นและหายเป็นปกติได้เองแต่หากอาการแย่ลงควรรีบไปพบจักษุแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยทันทีเพราะอาจมีสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่การทำเฟมโตเลสิก(FemtoLasik) ได้เช่นกัน
- ตาแห้งภาวะตาแห้งเกิดจากดวงตาผลิตน้ำตาลดลงทำให้ดวงตาขาดความชุ่มชื้นซึ่งอาการนี้สามารถแก้ไขได้ด้วยการหยอดน้ำตาเทียมแต่โดยส่วนใหญ่อาการนี้จะหายได้เองภายในไม่เกิน6เดือนหลังผ่าตัดเลสิก(Lasik)
จากข้อมูลที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้นจะเห็นได้ว่าเฟมโตเลสิก (Femto Lasik) เป็นทางเลือกในการผ่าตัดปรับค่าสายตาที่น่าสนใจ เพราะเป็นนวัตกรรมที่ใช้เวลาผ่าตัดไม่นาน พักฟื้นน้อยและใช้เวลาไม่นานก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ และที่สำคัญมีความเสี่ยงเรื่องผลข้างเคียงน้อยกว่าวิธีแบบดั้งเดิม หากเตรียมตัวและดูแลตัวเองหลังผ่าตัดตามคำสั่งแพทย์ก็ไม่ต้องกังวล รับประกันว่าได้ดวงตาสวยมองเห็นชัดโดยไม่ต้องง้อแว่นสายตาอีกต่อไป
บริษัท โรงพยาบาลตากรุงเทพ จำกัด
อาคารเดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ แอท ชิดลม 540 ชั้น7 ห้อง703
ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 1033002-869-8899
Copyright © 2024 All Rights Reserved.