ความต่างระหว่าง Femto Lasik vs ReLEx SMILE?
Femto Lasik vs ReLEx SMILE เป็นการทำเลก (Lasik) ที่ให้ผลดีทั้ง 2 แบบ แต่จะต่างกันที่เฟมโตเลสิก (Femto Lasik) ต้องแยกชั้นกระจกตา แต่รีเล็กซ์ สไมล์ (ReLEx SMILE) ไม่ต้องแยก แผลเล็กกว่า เซฟกระจกตาได้ดี ตาแห้งก็ทำได้
การทำเลสิก (Lasik) เป็นการรักษาสายตาที่ผิดปกติให้หายขาดอย่างถาวร ผู้รับการรักษาสามารถที่จะใช้สายตาในการมองเห็นได้ชัดเจนเลสิก (Lasik) ที่ได้รับความนิยมในปัจจุบันมีหลายวิธี แต่ละวิธีมีความแตกต่างกัน วันนี้เราจะพาไปทำความรู้จักกับการทำเลสิก 2 แบบที่ได้รับความนิยม นั่นคือ FemtoLASIK และ ReLEx SMILE ซึ่งเป็นวิธีที่พัฒนามาจากเลสิกแบบดั้งเดิม แต่การพัฒนาของเลสิก (Lasik) ทั้งสองแบบนี้ก็มีความแตกต่างกันอยู่หลายอย่าง เรามาดูกันว่าต่างกันอย่างไรระหว่าง Femto Lasik vs ReLEx SMILE และถ้าจะเลือกทำเลสิก (Lasik) ควรเลือกแบบไหนดี
การผ่าตัดแก้ปัญหาสายตาด้วย LASIK มีกี่วิธี
การทำ LASIK ไม่ได้มีแค่ Femto Lasik และ ReLEx SMILE เท่านั้น ถ้านับเรียงลำดับตามวิวัฒนาการของการทำเลสิก (Lasik) มีหลายวิธีที่พัฒนาต่อ ๆ กันมาจนถึงทุกวันนี้ เริ่มจาก
1.การทำเลสิก (Lasik)แบบใช้ใบมีด หรือ Microkeratome Lasikแต่บางท่านก็เรียกสั้นๆ ว่าเลสิก (Lasik)เป็นวิธีการใช้ใบมีดขนาดเล็กในการกรีดฝากระจกตาและแยกชั้นกระจกตาออก จากนั้นใช้เครื่องมือที่เรียกว่าเอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (ExcimerLaser) ในการปรับความโค้งของกระจกตาด้านล่างเพื่อเปลี่ยนค่าสายตาให้เป็นปกติ เสร็จแล้วจึงทำการปิดกระจกตาด้านบนไว้ดังเดิม
2.การทำเลสิก (Lasik)แบบPRK(Photorefractive Keratectomy)เป็นวิธีทำเลสิก (Lasik)โดยไม่แยกชั้นกระจกตาเหมือนวิธีแรก แต่จะใช้วิธีขูดหรือลอกผิวกระจกตาชั้นบนออก เหมาะสำหรับผู้ที่มีกระจกตาบางและไม่สามารถใช้วิธีแยกชั้นกระจกตาได้ มีสายตาผิดปกติไม่มากหรือเป็นโรคตาแห้งเรื้อรัง หลังจากขูดผิวกระจกตาออกแล้วจะใช้เอ็กไซเมอร์เลเซอร์ (Excimer Laser)ปรับความโค้งของกระจกตาด้านล่างแล้วจึงปิดกระจกตาไว้ด้วยคอนแทคเลนส์ (Contact Lens)
3.การทำเลสิคแบบเฟมโตเลสิก(Femto Lasik)เป็นวิธีการรักษาโดยใช้เลเซอร์เป็นหลัก เริ่มด้วยเลเซอร์ชนิดเฟมโตเซเคินเลเซอร์ (Femtosecond Laser)ในการเปิดฝากระจกตา ก่อนที่จะทำการปรับความโค้งของกระจกตาด้านในด้วยเอ็กไซเมอร์เลเซอร์(Excimer Laser)ซึ่งมีความแม่นยำและปลอดภัยมากกว่าการใช้ใบมีด
4.การทำเลสิก (Lasik)แบบไร้ใบมีด (ReLEx SMILE)หรือเรียกชื่ออย่างเป็นทางการว่า Refractive Lenticule Extraction – Small Incision Lenticule Extraction เป็นการทำเลสิก (Lasik)ด้วยเทคโนโลยีใหม่ในการแก้ไขสายตาโดยไม่ใช้วิธีการแยกชั้นกระจกตา ถ้าเทียบPRKvs LASIKแล้วจะต่างกันตรงที่วิธีใช้เลเซอร์ตัดเนื้อกระจกตาออกเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วค่อยๆ ดึงออก แผลจึงมีขนาดเล็กมากและหายได้เร็ว
ปัญหาสายตามีอะไรบ้าง ควรทำเลสิก (Lasik) ด้วยวิธีไหน
การทำเลสิกด้วยเทคนิคแบบต่างๆ จะช่วยแก้ปัญหาสายตาผิดปกติซึ่งมีอยู่หลายประเภทด้วยกัน คือ
1.ปัญหาสายตาสั้นเป็นภาวะผิดปกติที่ทำให้มองเห็นภาพชัดเพียงในระยะใกล้ๆ เท่านั้น แต่ถ้าภาพระยะไกลจะมองเห็นไม่ชัดเจนและพร่ามัว มีปัญหาในการขับรถ การเดินทาง แต่ไม่มีปัญหาในการอ่านหนังสือหรือนั่งทำงานที่โต๊ะ ผู้ที่มีสายตาสั้นสามารถแก้ไขด้วยการทำเลสิก (Lasik)แต่จะเลือกวิธีไหนขึ้นอยู่กับการประเมินของแพทย์ว่าสภาพของดวงตา กระจกตา และส่วนประกอบอื่นๆ เป็นอย่างไร
2.ปัญหาสายตายาวเป็นภาวะที่ตรงกันข้ามกับสายตาสั้น ซึ่งจะสามารถมองเห็นภาพชัดในระยะไกล ภาพในระยะใกล้จะมองไม่ชัด แต่ในผู้ป่วยบางคนก็มองไม่ชัดเลยไม่ว่าใกล้หรือไกล ปัญหานี้อาจเกิดขึ้นโดยกำเนิดและเกิดเมื่ออายุมากขึ้นได้ จะสังเกตว่าผู้สูงวัยเวลาอ่านหนังสือมักจะยื่นหนังสือออกไปไกลตัว หรือไม่ก็ต้องสวมแว่นตาในการอ่านหนังสือ ปัญหานี้เกิดจากกล้ามเนื้อในลูกตาและเลนส์แก้วตาเสื่อม สามารถแก้ปัญหาด้วยการทำเลสิกสายตายาวที่เรียกว่าโมโนวิชั่น (Monovision)
3.ปัญหาสายตาเอียงเป็นภาวะของการมองเห็นภาพซ้อนหรือเห็นเป็นเงา เนื่องจากจุดโฟกัสภาพของสายตามีมากกว่า 1 ตำแหน่งจากการที่แสงตกกระทบผิดปกติหรือแสงที่ผ่านเข้ามาในตามีการหักเหผิดไปจากปกติ การแก้ไขสามารถใช้วิธีเลสิก (Lasik)ทุกรูปแบบตามความเหมาะสมจากการวินิจฉัยของแพทย์
เปรียบเทียบข้อดีของ Femto Lasik และ ReLEx SMILE
ระหว่าง Femto Lasik และ ReLEx SMILE ต่างก็มีข้อดีด้วยกันทั้งคู่ สามารถตอบโจทย์ปัญหาสายตาอย่างที่หลายคนต้องการ ให้ผลลัพธ์ในการรักษาที่รวดเร็ว ปรับค่าสายตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถแยกข้อดีของแต่ละวิธีให้เห็นชัดได้ดังนี้
ข้อดีของ Femto Lasik เฟมโตเลสิก
-เทคนิคในการรักษาแทบจะไม่กระทบกระเทือนดวงตาเพราะมีกรรมวิธีที่นุ่มนวลและอ่อนโยนกว่าการทำเลสิก (Lasik)แบบดั้งเดิม เพราะไม่ใช้ใบมีดแต่ใช้เฟมโตเซเคินเลเซอร์ (Femtosecond Laser)แทน-มีความแม่นยำในการแยกชั้นกระจกตาจึงมั่นใจได้ในความปลอดภัย-รักษาปัญหาสายตาได้ทุกประเภท ไม่ว่าสายตาสั้น สายตาเอียง สายตายาวโดยกำเนิดหรือยาวตามอายุ-สามารถแก้ไขปัญหาสายตาสั้นร่วมกับสายตาเอียงในระดับสูงมากได้ถึง -12.00 ไดออปเตอร์ (Diopter)
ข้อดีของ ReLEx SMILE รีเล็กซ์ สไมล์
-เป็นเทคนิคที่รบกวนกระจกตาน้อยมากไม่ต้องแยกชั้นกระจกตา-โอกาสที่จะเกิดภาวะแทรกซ้อนน้อยกว่าเลสิกแบบอื่น ๆ-สามารถปรับความโค้งของกระจกตาได้ใกล้เคียงธรรมชาติมาก-สามารถแก้ไขค่าสายตาสั้นร่วมกับสายตาเอียงในระดับสูงมากถึง -12.00 ไดออปเตอร์ (Diopter)-ไม่ทำให้ตาแห้งหลังจากการรักษา-แผลเล็กกว่าLASIKประเภทอื่นๆ จึงมีความเจ็บน้อยกว่าหรือไม่รู้สึกเจ็บขณะผ่าตัด-แผลหายเร็ว
ข้อเสียของ Femto Lasik
แม้ว่า เฟมโตเลสิd (Femto Lasik) จะเป็นวิธีที่ดีมาก มีความแม่นยำและปลอดภัยสูง แต่ก็ยังอาจเกิดผลข้างเคียงบางอย่าง หากว่าแพทย์ผู้รักษาไม่มีความชำนาญ ปัญหาคือการแยกชั้นกระจกตาอาจทำให้กระจกตามีรอยแผล นอกจากนี้ถ้าทำไปแล้วไม่ระมัดระวังดวงตายังอาจทำให้ชั้นกระจกตาเคลื่อนทำให้แผลเปิดได้ คนไข้บางรายมีอาการตาแห้งหรือตาไม่สู้แสงหลังจากผ่าตัด
ข้อจำกัดของ ReLEx SMILE
ReLEx SMILE ก็มีข้อจำกัดเช่นกัน คือถ้าเป็นกรณีที่สายตายาวยังไม่สามารถทำได่ และทำการรักษาโดยแพทย์ที่ไม่ชำนาญพออาจมีความเสี่ยงที่จะส่งผลเสียมากกว่าผลดีหากตัดเลนส์ออกไม่หมด นอกจากนี้ยังอาจมีผลข้างเคียงจากการที่มีน้ำตาไหลมาก แสบตา เคืองตา คันตา เพราะใส่เลนส์ที่ไม่สะอาด อาการตาไม่สู้แสง ลืมตาไม่ขึ้นก็อาจเกิดขึ้นได้
ตาแห้งควรเลือกวิธีไหนดี
ตาแห้งเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย เป็นภาวะที่เกิดจากปริมาณน้ำตาไม่เพียงพอจนทำให้ผิวตาขาดน้ำหล่อเลี้ยงและขาดความชุ่มชื้น สร้างความรำคาญใจในการใช้สายตาโดยเฉพาะผู้ที่ต้องใช้คอมพิวเตอร์ในการทำงาน ผู้ที่มีปัญหาสายตาและต้องสวมคอนแทคเลนส์ (Contact Lens) ซึ่งเป็นสิ่งกระตุ้นให้เกิดอาการตาแห้งมากยิ่งขึ้น และถ้าตาแห้งมาก ๆ หากจะทำเลสิก (Lasik) ควรเลือกวิธีไหน
สำหรับผู้ที่มีภาวะตาแห้งมากแพทย์จะแนะนำให้ใช้วิธีเลสิก (Lasik) แบบ ReLEx SMILE หรือจะทำ PRK ก็ได้ เพราะเป็นวิธีที่เหมาะกับคนตาแห้ง สำหรับวิธี ReLEx SMILE นั้นเป็นเทคโนโลยีที่มีความอ่อนโยนสูงและไม่ต้องทำการแยกชั้นกระจกตา โดยในการรักษาจะใช้เครื่องมือเฟมโตเซเคินเลเซอร์ (Femtosecond Laser) ในการตัดเนื้อเลนส์ออกเป็นชิ้นเลนส์บางๆ เรียกว่า Lenticule แล้วนำเอา Lenticule นี้ออกมาทางช่องที่เจาะไว้ซึ่งมีขนาดเล็กมาก มีขนาดเพียงแค่ 2 - 3 มิลลิเมตรเท่านั้น จึงไม่กระทบกระเทือนต่อชั้นผิวกระจกตา เหมาะกับคนตาแห้ง
ส่วนการทำ PRK นั้นก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่แยกชั้นกระจกตาแต่ใช้วิธีลอกชั้นผิวกระจกตาด้านนอก หากเทียบ PRK vs lASIK แล้ว PRK มีข้อจำกัดน้อยกว่าการทำเลสิก (Lasik) ผู้ที่มีกระจกตาบางและตาแห้งสามารถทำได้ เพียงแต่เป็นการรักษาปัญหาสายตาที่มีค่าความผิดปกติในระดับไม่สูงมาก คือมีค่าสายตาสั้นหรือยาวไม่เกิน 800 จึงจะทำได้
อย่างไรก็ตามอาการตาแห้งหลังจากการรักษาด้วยเลสิก (Lasik) วิธีต่างๆ อาจเกิดขึ้นได้บ้าง มีทางแก้คือการหยอดน้ำตาเทียม โดยหมั่นหยอดตาทุก 1 ชั่วโมง จะช่วยลดอาการตาแห้งได้ และโดยทั่วไปแล้วอาการจะดีขึ้นในเวลาประมาณ 3 เดือน คุณก็จะมีสายตาที่ปกติ มองเห็นภาพต่างๆ ได้อย่างชัดเจนตลอดไป
บริษัท โรงพยาบาลตากรุงเทพ จำกัด
อาคารเดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ แอท ชิดลม 540 ชั้น7 ห้อง703
ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 1033002-869-8899
Copyright © 2024 All Rights Reserved.