เช็กด่วน! อาการแบบไหนบ่งบอกว่าคุณได้เวลาตัดแว่น
เมื่ออายุมากขึ้นก็เริ่มมีปัญหา ค่าสายตาเปลี่ยน ทำให้การมองเห็นที่เคยคมชัด ไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์ช่วยการมองเห็นอย่างแว่นสายตาหรือคอนแทคเลนส์นั้นกลับกลายเป็นพร่ามัวหรือต้องคอยเพ่งมอง และอาศัยอุปกรณ์เหล่านี้อยู่ตลอดเพื่อให้ภาพตรงหน้ามีความชัดขึ้นมามากกว่าเดิม ซึ่งนับเป็น วิธีการถนอมสายตา ไปในตัวได้อีกด้วย อาการไหนสามารถบ่งบอกได้ว่าคุณจะได้เวลาตัดแว่นแล้วหรือยังนั้นสามารถติดตามกันได้ในบทความนี้
อาการแบบไหนที่บ่งบอกว่าคุณได้เวลาตัดแว่น
โดยปกติการมองเห็นไม่ชัด สายตาพร่ามัว วิธีแก้ ของคนส่วนใหญ่คือเริ่มที่ปรับตัวเอง เช่น มองภาพระยะไกลไม่ชัดก็แก้ด้วยการขยับเข้าไปใกล้วัตถุยิ่งขึ้น ตาพร่าพยายามเพ่งมอง อย่างไรก็ตามปัญหาการมองไม่ชัด ไม่ควรวางใจ หากแก้ไขเองไม่หายแนะนำปรึกษาแพทย์หรือเพื่อความปลอดภัยและสบายใจควรหมั่นสังเกตความผิดปกติเกี่ยวกับการมองเห็นด้วยตัวเองเบื้องต้น พร้อมทั้งหาข้อมูลเพิ่มเติมทำความเข้าใจเกี่ยวกับอาการที่บ่งบอกว่าปัญหาที่เจออยู่นั้นถึงเวลาต้องตัดแว่นหรือไม่ ซึ่งหากคุณมีอาการเหล่านี้เกิดขึ้นอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณควรตัดแว่น
1.อาการมองเห็นพร่ามัว
หนึ่งในอาการที่เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าได้เวลาตัดแว่นแล้วก็คือการมองเห็นพร่ามัว ไม่ว่าจะมองวัตถุที่อยู่ไกลแล้วดูพร่ามัวหรือมองวัตถุอยู่ใกล้แล้วไม่ชัดเจนก็ตาม เพราะสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งจากภาวะสายตาสั้น ยาว และเอียง
2.อาการมองภาพซ้อน
การมองเห็นภาพซ้อนกันเกิดจากตาทั้งสองข้างทำงานไม่เท่ากัน บ่งบอกได้เลยว่าดวงตาของคุณกำลังมีความผิดปกติอยู่ อาจจะเกิดจากภาวะสายตาเอียงก็ดีหรือมีภาวะของโรคต้อกระจก หรือในบางรายอาจรุนแรงถึงขั้นมีความผิดปกติเกี่ยวกับระบบประสาทเลยก็ได้ ไม่ว่าคุณจะมีอาการมองภาพซ้อนชั่วคราวหรือเป็นมานานแล้ว แนะนำเข้าพบแพทย์ ตรวจค่าสายตาและทำการตัดแว่นเพื่อทำให้สายตากลับมาใช้งานได้ปกติจะดีที่สุด
3.อาการตาล้า
ปัจจุบันหลายคนใช้สายตาไปกับการเพ่งมองหน้าจอโทรศัพท์มือถือหรือจอคอมพิวเตอร์กันมากเกินไป แน่นอนว่าจะต้องมีอาการปวดตาหรืออาการตาล้าเกิดขึ้นได้ นอกจากนี้การใช้สายตาไปกับการขับรถทางไกลนาน ๆ อ่านตัวหนังสือมากเกินไป หรือแม้แต่อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีอากาศแห้งก็มีส่วนทำให้สายตาเกิดความผิดปกติได้เช่นกัน จึงจำเป็นต้องตัดแว่นเพื่อดูแลปัญหาดังกล่าว
4.อาการปวดศีรษะ
การโฟกัสกับวัตถุตรงหน้านาน ๆ ทั้งการอ่านหนังสือหรือจ้องจออุปกรณ์สื่อสารนาน ๆ นั้นมีส่วนทำให้เกิดอาการปวดศีรษะอยู่บ่อย ๆ ได้ และเมื่อไหร่ที่รู้สึกปวดศีรษะเป็นไปได้ว่ามีปัญหาทางสายตาเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจรู้สึกว่าสายตาโฟกัสวัตถุตรงหน้าไม่ดีเท่าที่ควรหรือเวลาเพ่งอะไรนาน ๆ ก็อาจรู้สึกปวดศีรษะกว่าเดิมได้ ซึ่งจำเป็นต้องเข้ารับการตรวจสายตาอย่างละเอียดและตัดแว่นเพื่อปรับสายตาให้มองชัดมากยิ่งขึ้น
5.รู้สึกอ่านตัวหนังสือได้ยากขึ้น
เวลาที่อ่านหนังสือหรือดูข้อความในจอโทรศัพท์มือถือแล้วรู้สึกว่าตัวอักษรที่ปรากฏอยู่นั้นมีลักษณะที่อ่านได้ยากขึ้นกว่าปกติ อาจมีสาเหตุมาจากภาวะทางสายตาอย่าง สายตายาว ที่ทำให้เกิดการสูญเสียความสามารถในการมองเห็นวัตถุที่อยู่ในระยะใกล้สายตาไปได้ ฉะนั้นจึงถือเป็นสัญญาณที่บ่งบอกว่าคุณได้เวลาที่จะพบนักทัศนมาตรและได้รับการตัดแว่น
6.มองเห็นแสงไฟฟุ้งกระจาย
หากในตอนกลางคืนคุณมองไปที่แสงไฟหรือจุดที่มีแสงจ้าแล้วมองเห็นแสงไฟเหล่านั้นจ้ากว่าปกติและมีลักษณะฟุ้ง แตกกระจาย มองเห็นแสงไฟเป็นเส้นแฉก ๆ หรืออาจมีลักษณะเป็นวงรอบดวงไฟเหล่านั้น อาจเป็นสัญญาณว่าคุณมีปัญหาสายตาสั้น สายตาเอียง รูม่านตาโต ต้อกระจก หรือมีความผิดปกติกับกระจกตาก็เป็นได้ จึงควรตรวจสุขภาพตาอย่างละเอียด และตัดแว่นสายตาเพื่อปรับการมองเห็นให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้นหากมีความจำเป็น มิเช่นนั้นอาจเป็นอันตรายหากจำเป็นต้องใช้สายตาในการขับขี่รถยนต์ เดินทางตอนกลางคืน
ปัญหาสายตาที่จำเป็นต้องตัดแว่น
จะเห็นได้ว่าอาการหรือสัญญาณที่บ่งบอกว่าควรต้องตัดแว่นนั้นมีอยู่หลากหลาย และส่วนใหญ่มักจะเกี่ยวกับภาวะทางสายตาซึ่งเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของกระจกตาหรือมีการหักเหของแสงที่ปิดปกติในจอประสาทตาจนทำให้ภาพตรงหน้าเกิดความไม่ชัดเจน ซึ่งปัญหาหรือภาวะทางสายตาที่จำเป็นต้องตัดแว่น ได้แก่
1.สายตาสั้น
ภาวะสายตาสั้น (Nearsightedness) หมายถึง ภาวะที่คุณมองเห็นวัตถุที่อยู่ใกล้ชัดเจนระยะนึง แต่มองเห็นวัตถุที่อยู่ไกล ๆ ไม่ชัด ซึ่งการมองไม่ชัดระยะใกล้ สายตาพร่ามัว วิธีแก้ เบื้องต้นเริ่มได้ที่ตัวเอง เพื่อทำให้การมองเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้น อย่างเช่นในกรณีที่นั่งดูทีวีอยู่แต่มองเห็นใบหน้าของคนในทีวีไม่ชัด หรือเด็กที่นั่งเรียนหนังสือแล้วอ่านตัวหนังสือบนกระดานไม่ชัด อย่างไรก็ตามภาวะนี้มีสาเหตุมาจากกระบอกตาที่ยาวเกินไปหรือกระจกตาโค้งมากกว่าปกติ ทำให้เกิดการหักเหของแสงมากขึ้นจนมองภาพตรงหน้าได้ไม่ชัดเจน จึงจำเป็นต้องแก้ปัญหาด้วยการใส่แว่นตาสำหรับสายตาสั้นหรือวิธีอื่น ๆ อย่างการทำเลสิก
2.สายตายาว
ภาวะ สายตายาว (Farsightedness) หมายถึง ภาวะที่มองเห็นวัตถุที่อยู่ไกลได้ชัดเจนระยะนึง แต่วัตถุที่อยู่ใกล้มองเห็นได้ไม่ชัดเจน หรือในบางรายก็อาจจะมองภาพตรงหน้าไม่ชัดเจน ไม่ว่าวัตถุนั้นจะอยู่ใกล้หรือไกลก็ตาม เนื่องจากสามารถเกิดจากลักษณะของกระบอกตาที่มีขนาดสั้นหรือกระจกตาที่มีความโค้งน้อยเกินไป ทำให้เกิดการหักเหของแสงน้อย มีจุดรวมแสงตกกระจบอยู่ด้านหลังจอประสาทตา และทำให้ไม่สามารถมองเห็นวัตถุที่อยู่ในระยะใกล้ ๆ ได้อย่างชัดเจนนั่นเอง
3.สายตาเอียง
นอกเหนือไปจากภาวะทางสายตาที่มี ค่าสายตาเปลี่ยน ไปอย่างสายตาสั้นและสายตายาวแล้ว ภาวะสายตาเอียงก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่ควรได้รับการตัดแว่นเพื่อทำให้การมองเห็นกลับมาเป็นปกติ โดยเป็นภาวะที่การมองเห็นวัตถุในระยะใกล้และไกลไม่ชัดเจน ภาพตรงหน้ามีลักษณะบิดเพี้ยนไปจากความเป็นจริง และยังสามารถเป็นร่วมกับภาวะสายตาสั้นและยาวได้อีกด้วย ถือเป็นภาวะทางสายตาที่ควรได้รับการดูแล เพราะค่อนข้างกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ในบางรายอาจมีอาการเจ็บตาเพราะต้องขยี้ตาหรือปวดคอเพราะเอียงคออยู่บ่อย ๆ เพื่อทำให้ภาพตรงหน้าชัดเจนมากยิ่งขึ้น
สุขภาพสายตามีปัญหา ไม่ตัดแว่นได้ไหม
หากรู้ตัวว่ากำลังเผชิญกับปัญหาการมองเห็นอยู่ ไม่ว่าจะสังเกตจากอาการมองภาพซ้อนกัน ตาล้า ปวดตา เห็นแสงไฟเป็นแฉก ๆ หรือแม้แต่มีภาวะทางสุขภาพสายตาอย่าง สายตายาว สายตาสั้น หรือสายตาเอียงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แนะนำว่าควรหาวิธีดูแลรักษาเพื่อไม่ให้อาการเหล่านี้รุนแรงกว่าเดิม โดยเฉพาะการตัดแว่น ที่ถือเป็น วิธีการถนอมสายตา ที่สามารถทำได้ง่ายที่สุด สามารถปรับการมองเห็นให้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น
สุขภาพสายตามีปัญหาจึงควรตรวจค่าสายตาเพื่อตัดแว่นหรือใส่คอนแทคเลนส์ โดยอันตรายของการไม่ตัดแว่นหรือไม่สวมใส่แว่นสายตาเมื่อรู้ตัวว่าสุขภาพสายตามีปัญหาอยู่นั้น ได้แก่ อาการปวดศีรษะ คลื่นไส้ เวียนศีรษะ มีอาการสายตาพร่ามัวเพิ่มมากขึ้น และส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการเรียนหนังสือไม่รู้เรื่อง ประสิทธิภาพการทำงานลดลง หรือแม้แต่ก่อให้เกิดอุบัติเหตุ เป็นต้น
ตัดแว่นที่ไหนดี? ข้อแนะนำเลือกสถานที่ตัดแว่นสายตา
สำหรับใครที่ต้องการตัดแว่นเพื่อดูแลสุขภาพสายตาให้กลับมามองเห็นชัดเจนมากยิ่งขึ้นอีกครั้งและกำลังมองหาว่าจะเลือกตัดแว่นไหนดีอยู่ แนะนำพิจารณาปัจจัยดังต่อไปนี้ในการตัดแว่นสายตา เพื่อให้ได้แว่นสายตาที่สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้ตรงจุดและเข้ากับไลฟ์สไตล์หรือใบหน้าของตัวเองมากที่สุด ไม่ว่าจะเป็น
1.เลือกสถานที่ตัดแว่นที่มีนักทัศนมาตร เพื่อการตรวจวัดสายที่มีความถูกต้องแม่นยำ สามารถแนะนำการเลือกเลนส์แว่นสายตาที่เหมาะสมกับปัญหาสุขภาพสายตาของแต่ละบุคคลได้ตรงจุด รวมถึงคอยให้คำแนะนำเกี่ยวกับสุขภาพสายตาต่าง ๆ
2.เลือกสถานที่ตัดแว่นที่มีอุปกรณ์และเครื่องมือทันสมัยได้มาตรฐาน เพราะการวัดสายตาหรือตัดแว่นสายตานั้นเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมาก ๆ หากใช้อุปกรณ์และเครื่องที่ไม่ได้มาตรฐานอาจทำให้ได้เลนส์แว่นตาที่ไม่ได้มาตรฐาน ส่งผลเสียต่อการมองเห็นในอนาคตได้
3.เลือกสถานที่ตัดแว่นที่มีกรอบแว่นสายตาให้เลือกหลากหลายรูปแบบ เช่น ทรงเหลี่ยม ทรงกลม หรือมีลักษณะวัสดุที่ทนทาน ใส่สบาย น้ำหนักเบา เพื่อให้แน่ใจว่าแว่นสายตาที่เลือกมานั้นตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์และเข้ากันกับรูปหน้ามากที่สุด เสริมความมั่นใจให้กับตัวเองได้ โดยเฉพาะผู้ที่ไม่เคยใส่แว่นและรู้สึกไม่ชินหรือไม่มั่นใจในตัวเอง
4.เลือกสถานที่ตัดแว่นที่ราคาสมเหตุสมผล มีการรับประกัน พร้อมบริการหลังการขายที่ดี
5.เลือกสถานที่ตัดแว่นที่สามารถเดินทางได้สะดวก เผื่อในกรณีที่แว่นสายตามีปัญหาอาจจำเป็นต้องเดินทางเพื่อไปซ่อมหรือปรับแต่งทรงแว่น
เมื่อสังเกตเห็นถึงสัญญาณเกี่ยวกับสายตาที่เปลี่ยนแปลงไปหรือ ค่าสายตาเปลี่ยน ทั้งมองภาพซ้อนกัน อ่านหนังสือได้ยากขึ้น มีปวดตา ตาล้า เห็นแสงไฟฟุ้งกระจาย แนะนำว่าควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์หรือนักทัศนมาตรโดยเร็วที่สุดเพื่อทำการตรวจวัดสุขภาพสายตาว่ามีความผิดปกติมากน้อยแค่ไหน พร้อมหาแนวทางหรือ วิธีการถนอมสายตา อย่างการตัดแว่นเพื่อทำให้การมองเห็นกลับมาชัดเจนและปกติมากยิ่งขึ้นอีกครั้ง
บริษัท โรงพยาบาลตากรุงเทพ จำกัด
อาคารเดอะ เมอร์คิวรี่ วิลล์ แอท ชิดลม 540 ชั้น7 ห้อง703
ถนนเพลินจิต แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน กรุงเทพมหานคร 1033002-869-8899
Copyright © 2024 All Rights Reserved.