ประโยชน์ของน้ำตาเทียม ทำไมผู้สูงอายุควรใช้

เมื่ออายุมากขึ้น การมองเห็นก็เริ่มถดถอย ทั้งมองภาพตรงหน้าไม่ชัด สายตาพร่ามัว เกิดภาวะตาแห้ง หรืออาจเสี่ยงเป็นโรคเกี่ยวกับดวงตาและการมองเห็นอีกมากมาย ด้วยเหตุผลนี้จึงต้องได้รับการดูแลสุขภาพสายตาเป็นพิเศษ และหนึ่งในวิธีการดูแลสายตาให้กลับมาเป็นปกติ หรือลดความเสี่ยงภาวะอันตรายต่อดวงตาก็คือการใช้ “น้ำตาเทียม” ซึ่งดีอย่างไร มีกี่แบบ และผู้สูงอายุจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียม หยอดตา มากน้อยแค่ไหน บทความนี้มีคำตอบ

น้ำตาเทียมคืออะไร มีกี่รูปแบบ

น้ำตาเทียม (Artificial Tears) ของเหลวที่มีคุณสมบัติช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ดวงตา สามารถช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองดวงตา หรือป้องกันการเกิดภาวะตาแห้ง อาการแสบตาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่สำคัญเป็นประเภท ยาหยอด ตาที่สามารถเลือกซื้อได้ด้วยตนเอง ไม่จำเป็นต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์หรือเภสัชกรในการสั่งซื้อ 

โดยในท้องตลาดมี น้ำตาเทียม ราคา ที่หลายระดับแตกต่างไปรูปแบบการใช้งานและสรรพคุณในการดูแลสุขภาพดวงตา ดังนี้ 

1.น้ำตาเทียมแบบขวด หรือน้ำตาเทียมรายเดือน

รูปแบบน้ำตาเทียมมที่บรรจุในขวดขนาดกำลังพอดี เพียงพอต่อการใช้งานอย่างน้อย 30 วันหลังจากเปิดใช้งานวันแรก ถือเป็นรูปแบบน้ำตาเทียมที่ได้รับความนิยม เพราะไม่เพียงแต่จะใช้ได้นานแล้ว ยังมีราคาที่ค่อนข้างย่อมเยา หาซื้อได้ที่ร้านขายยาทั่วไปอีกด้วย โดยเหมาะสำหรับผู้ที่มีภาวะตาแห้งในระดับเล็กน้อยจนถึงปานกลาง และผู้ที่ใช้น้ำตาเทียมอย่างเป็นประจำ

ทั้งนี้น้ำตาเทียมแบบรายเดือนส่วนใหญ่มักมีส่วนผสมของสารกันเสียเพื่อยืดอายุการใช้งาน จึงไม่แนะนำให้ใช้งานในผู้ที่มีประวัติแพ้สารกันเสีย 

2.น้ำตาเทียมแบบหลอด หรือน้ำตาเทียมรายวัน

สำหรับใครที่ไม่สะดวกพกขวดน้ำตาเทียมไปไหนมาไหน การเลือกใช้น้ำตาเทียมแบบหลอด หรือแบบรายวันก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย และยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีประวัติแพ้สารกันเสียในน้ำตาเทียมอีกด้วย เนื่องจากปราศจากส่วนผสมของสารกันเสีย มีอายุการใช้งานเพียง 24 ชั่วโมงหลังเปิดหลอดเท่านั้น โดยน้ำตาเทียมแบบหลอดจะมาในลักษณะหลอดหรือกระเปาะเล็ก ๆ พกพาได้สะดวกสบาย แต่จะเป็น น้ำตาเทียม ราคา สูงกว่าน้ำตาเทียมแบบขวด หรือแบบรายเดือน 

3.น้ำตาเทียนแบบเจล

น้ำตาเทียมประเภท เจลหยอดตา หรือมาใช้รูปแบบขี้ผึ้งป้ายดวงตา ส่วนใหญ่มีลักษณะที่ค่อนข้างหนืด ระเหยช้า เพื่อช่วยในการรักษาความชุ่มชื้นแก่ดวงตาได้ยาวนานกว่าแบบน้ำทั่วไป จึงเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาตาแห้งระดับปานกลางจนถึงระดับรุนแรง ทั้งนี้น้ำตาเทียมที่มาในรูปแบบ เจลหยอดตา จะมีข้อจำกัดในการใช้งานค่อนข้างมากเมื่อเทียบกับแบบอื่น เช่น ทำให้ตาพร่ามัวหลังใช้งาน ไม่ควรใช้ร่วมกับการใส่คอนแทคเลนส์ เพราะอาจทำให้ประสิทธิภาพการมองเห็นน้อยลง เหมาะใช้ก่อนนอนเพราะมีความหนืด และทำให้ตาพร่ามัวมองไม่ชัดในช่วงแรกที่ป้ายลงบริเวณลูกตา

ประโยชน์ของน้ำตาเทียม

สำหรับการใช้น้ำตาเทียมเพื่อ หยอดตา นั้นมีประโยชน์ต่อการดูแลรักษาสุขภาพดวงตาได้หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น

-ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ดวงตา ในผู้ที่มีน้ำตาน้อย หรือผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์-ป้องกันภาวะตาแห้ง บรรเทาอาการแสบตา ระคายเคืองตา-ช่วยลดอาการระคายเคืองดวงตาหลังการผ่าตัด ไม่ว่าจะหลังทำเลสิก หรือผ่าตัดต้อกระจกตา-ช่วยขจัดสิ่งสกปรก ฝุ่นละอองออกจากผิวดวงตา

น้ำตาเทียมกับยาหยอดตาต่างกันหรือไม่

นอกจากน้ำตาเทียมแล้ว เชื่อว่าหลาย ๆ คนน่าจะคุ้นเคยกับคำว่า ยาหยอด ตากันเป็นอย่างดี และเข้าใจว่าสองสิ่งนี้เป็นสิ่งเดียวกัน แต่จริง ๆ แล้วทั้งสองสิ่งนี้มีความคล้ายคลึงกันบางประการเท่านั้น 

1.น้ำตาเทียม

ตัวช่วยบรรเทาอาการตาแห้ง ระคายเคืองดวงตาที่อัดแน่นไปด้วยสารให้ความชุ่มชื้น ทำหน้าที่เสมือนน้ำตาธรรมชาติที่คอยหล่อเลี้ยงลูกตา สามารถหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านขายยาโดยไม่ต้องใช้ใบสั่งยาจากแพทย์ โดยมีทั้งรูปแบบขวด หลอด และแบบเจล ทั้งยังมีทั้งแบบมีสารกันเสียเพื่อยืดอายุการใช้งาน และแบบไร้ส่วนผสมของสารกันเสีย ซึ่งนอกจากจะช่วยบรรเทาอาการตาแห้งแล้ว ยังทำให้ผู้ที่ใช้งานรู้สึกสบายตา หรือนำมาใช้เพื่อบรรเทาอาการระคายเคืองลูกตาหลังทำการเลเซอร์ และผ่าตัดได้อีกด้วย

2.ยาหยอดตา

ขึ้นชื่อว่าเป็นยาจำเป็นต้องได้รับคำสั่งจากแพทย์เท่านั้นในการสั่งซื้อ เนื่องจากจะมีส่วนผสมของตัวยาหลากหลายชนิด เพื่อใช้ในการรักษาภาวะทางสุขภาพดวงตาที่ต่างกันออกไป เช่น ยาหยอดตาประเภทสเตียรอยด์เพื่อบรรเทาอาการอักเสบบริเวณดวงตา ยาหยอดตาประเภทสำหรับแก้แพ้ ดูแลปัญหาเยื่อบุตาอักเสบเนื่องจากภูมิแพ้ อีกทั้งยาหยอดตามักมีผลข้างเคียงหากใช้งานติดต่อกันเป็นระยะเวลานานหรือใช้ผิดวิธี จึงต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น 

ฉะนั้นแล้วกล่าวโดยสรุปว่าน้ำตาเทียมกับยาหยอดตามีความต่างกัน คือ น้ำตาเทียมหมายถึงของเหลวที่ช่วยหล่อลื่นผิวดวงตาทำหน้าที่เสมือนเป็นน้ำตาธรรมชาติ สามารถบรรเทาอาการตาแห้ง ระคายเคืองลูกตาได้ ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องใช้ใบสั่งยาในการสั่งซื้อ ขณะที่ ยาหยอด ตา จะเหมาะสำหรับรักษาภาวะผิดปกติทางตาโดยเฉพาะ อาจมาในรูปแบบของยาสเตียรอยด์ หรือยาแก้แพ้แบบหยอดก็ได้ และจำเป็นต้องมีใบสั่งยาจากแพทย์ในการสั่งซื้อ  

ใครจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมบ้าง

น้ำตาเทียมสามารถช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ดวงตา ป้องกันอาการตาแห้งระคายเคืองตาได้เป็นอย่างดี ซึ่งเหมาะสำหรับกลุ่มคนดังต่อไปนี้

-ผู้ที่ประสบปัญหาตาแห้ง ระคายเคืองตาอยู่บ่อยครั้ง-ผู้ที่มีสิ่งสกปรก ฝุ่นละอองในลูกตา และต้องการล้างออก-ผู้ที่ตาแห้ง แสบตา ตาล้าเนื่องจากใช้สายตาหนักจากการเรียน การทำงาน-ผู้ที่มีอาการตาแห้งเนื่องจากใส่คอนแทคเลนส์-ผู้สูงอายุที่มีปัญหาตาแห้งเนื่องจากต่อมน้ำตาทำงานลดลง-ผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาลดน้อยลง-ผู้ที่ทำงานกลางแจ้ง เจออากาศร้อน อากาศแห้ง หรือลมพัดเป็นประจำ-ผู้ที่ต้องการความสบายลูกตา-ผู้สูงอายุจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมจริงหรือไม่

เมื่ออายุมากขึ้น การทำงานของร่างกายก็เสื่อมถอยลง ไม่เว้นแม้แต่ดวงตาและการมองเห็น ซึ่งจะมีการผลิตน้ำตาหรือน้ำหล่อเลี้ยงลูกตาลดน้อยลด จนทำให้เกิดอาการตาแห้ง รู้ระคายเคืองตา ไม่สบายตา หรือแสบตาได้ การใช้น้ำตาเทียมจึงถือเป็นตัวช่วยสำคัญสำหรับผู้สูงอายุที่จะทำให้อาการเหล่านี้ทุเลาลง และป้องกันการเกิดภาวะผิดทางสุขภาพดวงตาที่ผิดปกติในอนาคตได้อีกด้วย 

ทั้งนี้หากผู้สูงอายุที่ไม่ได้เผชิญอาการรตาแห้งจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ก็อาจไม่จำเป็นจะต้องใช้น้ำตาเทียม หรือเข้ารับการปรึกษาและการตรวจสุขภาพดวงตากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจน้ำตาเทียม เพื่อให้มั่นใจว่ามีความผิดปกติใดเกิดขึ้นกับดวงตา หรือจำเป็นต้องใช้น้ำตาเทียมหรือไม่ 

วิธีใช้น้ำตาเทียมอย่างถูกต้อง ปลอดภัยต่อดวงตา

แม้ว่าการใช้น้ำตาเทียมจะดีต่อสุขภาพดวงตา ใช้งานได้ง่ายสะดวกสบาย แต่ขอแนะนำว่าให้ใช้อย่างระมัดระวังเพื่อความปลอดภัยต่อดวงตาและการมองเห็น ซึ่งมีวิธีการใช้น้ำตาเทียมอย่างถูกต้อง และข้อควรระวังในการใช้งาน ดังนี้

-ก่อนใช้น้ำตาเทียมควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้ง-ศึกษาข้อควรระวังในการใช้งานน้ำตาเทียมแต่ละรูปแบบ เช่น แบบขวดควรใช้ภายใน 30 วัน แบบหลอดควรใช้ภายใน 24 ชั่วโมง หรือแบบเจลหยอดตาไม่ควรใช้งานร่วมกับคอนแทคเลนส์-หลีกเลี่ยงการใช้น้ำตาเทียมร่วมกับผู้อื่น เพื่อป้องกันการติดเชื้อ-ขณะใช้งานน้ำตาเทียม ห้ามไม่ให้ปลายหลอดสัมผัสกับดวงตาหรือขนตา เพื่อป้องกันการติดเชื้อ หรือทำให้ดวงตาอักเสบ-หลังใช้ควรสังเกตอาการตัวเอง หากมีอาการผิดปกติ เช่น ระคายเคือง แสบตามากกว่าปกติ ตาแห้งกว่าเดิม ควรหยุดใช้ทันที และเข้าพบแพทย์โดยเร็วที่สุด

น้ำตาเทียมมีประโยชน์มากมายต่อการดูและดวงตา ไม่ว่าคุณจะอยู่ในวัยรุ่นที่ใช้สายตาหนักไปกับการเรียน การทำงาน หรือการจ้องจอโทรศัพท์มือถือตลอดวัน หรือวัยสูงอายุที่ต้องเผชิญกับความถดถอยของร่างกายที่มีส่วนทำให้เกิดโรคเกี่ยวกับตา มีปัญหาการมองเห็น หรือมีอาการผิดปกติเกิดขึ้นกับดวงตาแย่ลงจนเกิดเป็นอาการตาแห้ง ระคายเคืองลูกตา น้ำตาเทียมก็สามารถช่วยทำให้รู้สึกสบายตา การมองเห็นมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ และเพื่อความปลอดภัยในการใช้งานควรศึกษาวิธีการใช้งานและข้อระมัดระวังอย่างละเอียด หรือเข้ารับการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนตัดสินใจใช้น้ำตาเทียมจะดีที่สุด