ทำไมใส่คอนแทคเลนส์แล้วตามัว ทำอย่างไรดี

สำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตาสั้น มองเห็นไม่ชัดเจน นอกจากการใส่แว่นจะช่วยจัดการปัญหาดังกล่าวได้แล้ว อีกวิธีหนึ่งที่ช่วยให้การมองเห็นระยะไกลชัดเจนขึ้น นั่นคือการใส่คอนแทคเลนส์ โดยคอนแทคเลนส์คือแผ่นพลาสติกชนิดพิเศษที่มีความโค้งจำเฉพาะ ออกแบบมาให้สามารถวางบนกระจกตาหรือบริเวณตาดำ ความโค้งเว้าของเลนส์ช่วยแก้ไขปัญหาสายตาผิดปกติ แม้การใช้งานจะสะดวกสบายกว่าการใส่แว่นสายตา แต่ถึงอย่างนั้นบางคนกลับมีปัญหา ใส่คอนแทคเลนส์แล้วตามัว ตาแดง ระหว่างวันมองเห็นไม่ชัด ลองมาดูกันว่าเพราะอะไรปัญหานี้จึงเกิดขึ้นและมีวิธีแก้ปัญหาอย่างไร

ทำความรู้จักคอนแทคเลนส์มีกี่ประเภท

ก่อนจะไปดูว่าเพราะอะไรบางครั้ง ใส่คอนแทคเลนส์แล้วตาแดง ตามัว มองเห็นไม่ชัด ลองทำความรู้จักคอนแทคเลนส์แต่ละชนิดเสียก่อนว่ามีรูปแบบใดบ้าง แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร

1.คอนแทนเลนส์ชนิดกึ่งแข็ง

บางคนอาจเรียกว่าคอนแทคเลนส์แบบ RGP ย่อมาจากคำว่า Rigid Gas Permeable Lens คอนแทคเลนส์ที่ผลิตจากพลาสติกชนิดพิเศษ มีลักษณะค่อนข้างแข็ง จุดเด่นคือปริมาณออกซิเจนสามารถซึมผ่านเลนส์ไปยังกระจกตาได้ง่ายและผ่านเข้าไปในปริมาณสูง อีกทั้งยังมีความทนทาน

2.คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม

แค่ชื่อน่าจะพอคาดเดาได้แล้วว่าเป็นคอนแทคเลนส์ที่มีเนื้อสัมผัสนิ่มกว่าแบบแรก ผลิตจากไฮโดรเจล ตัวเลนส์จึงค่อนข้างนิ่ม เบา สวมใส่สบาย จุดเด่นสามารถอุ้มน้ำได้ดีกว่าชนิดกึ่งแข็ง ปริมาณออกซิเจนสามารถซึมผ่านเลนส์ได้ในปริมาณเพียงพอ สามารถแบ่งได้เป็น 3 ชนิดย่อยตามรูปแบบปัญหาสายตา ได้แก่ คอนแทคเลนส์แก้ปัญหาสายตาสั้น ปัญหาสายตายาวแต่กำเนิด และปัญหาสายตาเอียง

นอกจากคอนแทคเลนส์แบ่งเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ แล้ว ยังสามารถแบ่งได้ตามรูปแบบการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นคอนแทคเลนส์รายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี เป็นต้น

สาเหตุที่ทำให้ตามัวเมื่อใส่คอนแทคเลนส์ พร้อมวิธีการแก้ไข

อาการใส่คอนแทคเลนส์แล้วตามัว ตาแดง มองเห็นไม่ชัดสามารถเกิดขึ้นได้ แม้ไม่ใช่การ ใส่คอนแทคเลนส์ครั้งแรก ก็ตาม โดยสาเหตุหลักเกิดจากกระจกตาติดเชื้อ ซึ่งภาวะกระจกตาติดเชื้อสามารถลุกลามไปถึงขั้นสูญเสียการมองเห็น เกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นการสวมคอนแทคเลนส์นานเกินไป รวมไปถึงการใส่คอนแทคเลนส์นอน การใส่คอนแทคเลนส์ซ้ำ การไม่รักษาความสะอาด หรือแม้แต่มีสิ่งแปลกปลอมร่วงลงไปในน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ อาการที่พบส่วนใหญ่ คือ ตาแดง ตามัว มองเห็นไม่ชัด มีน้ำตาไหล บางรายมีอาการคันและปวดตาร่วมด้วย

สำหรับวิธีการแก้ไขเบื้องต้น แนะนำให้รีบถอดคอนแทคเลนส์ออกทันที เนื่องจากมีโอกาสที่กระจกตาติดเชื้อสูง จากนั้นให้รีบพบจักษุแพทย์ โดยควรนำคอนแทคเลนส์และน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ที่ใช้อยู่ในปัจจุบันติดตัวไปด้วย เพื่อให้แพทย์ตรวจสอบเพิ่มเติม เบื้องต้นแพทย์จะหยอดยาฆ่าเชื้อ หากอาการรุนแรงจะเพาะเชื้อเพื่อหาสาเหตุ ที่สำคัญไม่ควรซื้อยาหยอดตามาหยอดเอง ควรอยู่ในการดูแลของแพทย์จะดีที่สุด เพื่อไม่ให้เกิดภาวะลุกลาม

สัญญาณอันตรายที่ควรหยุดใส่คอนแทคเลนส์

แม้คอนแทคเลนส์จะเป็นตัวช่วยแก้ปัญหาสายตาได้ค่อนข้างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นสายตาสั้น สายตายาว หรือแม้แต่สายตาเอียง แต่ถึงอย่างนั้นหากใส่แล้วเกิดอาการผิดปกติเกี่ยวกับดวงตา แนะนำให้หยุดใส่คอนแทคเลนส์ทันที โดยมี 3 สัญญาณอันตรายที่บอกว่าควรหยุดใส่คอนแทคเลนส์ได้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นผู้ที่ ใส่คอนแทคเลนส์ครั้งแรก หรือแม้แต่ผู้ที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ

●ตาแห้งมากผิดปกติ

อาการตาแห้งเกิดขึ้นได้เสมอโดยเฉพาะกับคนที่ใส่คอนแทคเลนส์เป็นประจำ แต่ถึงอย่างนั้นหากสังเกตว่าตาแห้งมากผิดปกติจนต้องหยดน้ำตาเทียมบ่อย ๆ แนะนำให้ปรึกษาแพทย์ 

ตาแดง ตามัว น้ำตาไหล

การ ใส่คอนแทคเลนส์แล้วตามัว ตาแดง เกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความสะอาด การที่เศษโปรตีนเกาะบริเวณตาหรือคอนแทคเลนส์ แต่ไม่ว่าจะด้วยสาเหตุใดแนะนำให้ถอดคอนแทคเลนส์ออก เพราะอาจเป็นสัญญาณกระจกตาอักเสบจนทำให้ตาแดง ตามัว มองเห็นไม่ชัด ยิ่งหากมีหนองในช่องม่านตายิ่งเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าดวงตาติดเชื้อ ควรรีบพบแพทย์ทันที

●เกิดจุดเล็ก ๆ บริเวณตาดำ

จุดเล็กที่เกิดขึ้นบริเวณตาดำเป็นสัญญาณเยื่อบุตาอักเสบ สามารถเกิดได้เพราะอาการแพ้หรือดวงตาขาดออกซิเจน รวมถึงเกิดจากอาการช้ำของเยื่อตาอันเป็นผลพวงมาจากปัญหาตาแห้ง หากปล่อยไว้จุดเล็ก ๆ อาจรวมตัวกันเป็นจุดใหญ่จนทำให้ติดเชื้อ ส่งผลต่อการมองเห็นได้  

ใส่คอนแทคเลนส์อย่างไรให้ปลอดภัย

• ล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนใส่คอนแทคเลนส์
• ก่อนใส่คอนแทคเลนส์ต้องล้างเลนส์ให้สะอาดก่อนเสมอ
• ควรใส่คอนแทคเลนส์ก่อนขั้นตอนการแต่งหน้า ทาครีม หรือทาโลชั่น
• ควรเปลี่ยนกล่องเก็บคอนแทคเลนส์ทุก 3 - 4 เดือน เพื่อลดโอกาสการสะสมของสิ่งสกปรก
• เมื่อเลนส์มีรอยฉีกขาดควรเปลี่ยนคอนแทคเลนส์คู่ใหม่ทันที
• ห้ามใส่คอนแทคเลนส์หมดอายุ เช่น หากเป็นคอนแทคเลนส์รายวันต้องเปลี่ยนทุกวัน ไม่ควรใช้ซ้ำเพราะเสี่ยงต่อการติดเชื้อ
• ห้ามใส่คอนแทคเลนส์ร่วมกับผู้อื่น เพราะมีโอกาสทำให้ตาติดเชื้อสูง
• หากใส่คอนแทคเลนส์แล้วระคายเคืองตา ตามัว หรือตาแดง ให้ถอดออกทันทีและควรปรึกษาแพทย์

วิธีล้างคอนแทคเลนส์

• เริ่มต้นด้วยการล้างมือให้สะอาด จากนั้นซับน้ำออกด้วยผ้าสะอาดเช่นกัน
• ใช้ปลายนิ้วแตะคอนแทคเลนส์นำขึ้นมาวางบนฝ่ามือ จากนั้นหยดน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ลงไปพอประมาณ ตามด้วยการใช้นิ้วชี้ค่อย ๆ ถูคอนแทคเลนส์ ประมาณ 15 - 20 วินาที เมื่อเสร็จแล้วให้พลิกอีกด้านและถูแบบเดิม
• หลังจากล้างคอนแทคเลนส์ทั้ง 2 ด้านเรียบร้อยแล้วให้ล้างเลนส์ครั้งสุดท้ายด้วยการหยดน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ให้ทั่ว จากนั้นจึงใส่คอนแทคเลนส์ตามปกติ
• หากเปิดใช้คอนแทคเลนส์ครั้งแรก หลังจากล้างคอนแทคเลนส์แล้วควรแช่ทิ้งไว้ 4 ชั่วโมง เพื่อขจัดคราบโปรตีน
• นอกจากการล้างคอนแทคเลนส์แล้ว อย่าลืมให้ความสำคัญกับกล่องเก็บคอนแทคเลนส์ที่ต้องสะอาดด้วยเช่นกัน ไม่อย่างนั้นแล้วคอนแทคเลนส์จะไม่สะอาดและยังเป็นแหล่งสะสมสิ่งสกปรก

เทคนิคการเลือกคอนแทคเลนส์

1.ยี่ห้อได้มาตรฐาน

ปัจจุบันมียี่ห้อ คอนแทคเลนส์ ให้เลือกมากมาย จนทำให้ไม่แน่ใจว่าควรเลือกยี่ห้อไหนดี แต่ทราบหรือไม่ว่ายี่ห้อใดไม่สำคัญเท่ากับคอนแทคเลนส์ยี่ห้อนั้น ๆ ได้มาตรฐานและมีเลข อย. (อาหารและยา) ควบคุมหรือไม่ เพราะคอนแทคเลนส์จัดอยู่ในหมวดหมู่เครื่องมือแพทย์ ต้องมีใบอนุญาตตามกระทรวงสาธารณสุข ยี่ห้อที่เลือกใช้จึงต้องมีเครื่องหมาย อย. เพื่อความปลอดภัย

2.ค่าสายตาเหมาะกับดวงตา

การใส่คอนแทคเลนส์จะแก้ปัญหาสายตาไม่ได้เลยหากเลือกค่าสายตาไม่เหมาะสมกับดวงตา โดยเฉพาะการ ใส่คอนแทคเลนส์ครั้งแรกแนะนำว่าควรปรึกษานักทัศนมาตร เพื่อตรวจวัดสายตาก่อนเสมอ ข้อดีคือช่วยให้เลือกค่าคอนแทคเลนส์ได้เหมาะสมกับดวงตานั่นเอง

3.รูปแบบคอนแทคเลนส์เหมาะกับไลฟ์สไตล์

ปัจจุบันคอนแทคเลนส์มีหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นรายวัน รายสัปดาห์ รายเดือน และรายปี ทั้งนี้ควรเลือกแบบที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ เช่น หากเป็นคนชอบเล่นกีฬาหรือชอบทำกิจกรรมแอดเวนเจอร์ คอนแทคเลนส์รายวันดูเป็นตัวเลือกเหมาะสมที่สุด เพราะหากมีสิ่งสกปรกอย่างเศษดิน โคลน หรือมลภาวะ เข้าไปเกาะตามเลนส์ก็สามารถเปลี่ยนอันใหม่ได้ทันที

การใส่คอนแทคเลนส์นับว่าเป็นทางเลือกที่สะดวกสบาย อีกทั้งยังคล่องตัวกว่าการใส่แว่นสายตา แต่ถึงอย่างนั้นบางครั้งอาจมีผลข้างเคียงอันเกิดจากหลายสาเหตุ ทำให้มีปัญหา ใส่คอนแทคเลนส์แล้วตาแดง ตามัว หากเกิดปัญหานี้บ่อย ๆ แนะนำให้พบจักษุแพทย์เพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงพร้อมวิธีแก้ไข เพื่อลดการเกิดภาวะลุกลามและลดการเกิดปัญหาอื่น ๆ เกี่ยวกับดวงตาในอนาคต นอกจากนี้ใครที่สวมใส่คอนแทคเลนส์ยังต้องดูแลเรื่องความสะอาดและสังเกตเสมอว่าดวงตามีความผิดปกติหรือไม่ หากพบว่ามีปัญหาเกี่ยวกับดวงตาจะได้หาวิธีรักษาได้ทัน